Notebookspec: Review MSI GX660R [i7+HD5870+Full HD]

หลังจาก MSI ได้ปล่อยเจ้า MSI GX660 ออกมาก่อนหน้านี้ ถือว่ากระแสตอบรับค่อนข้างดี แต่ถูก User ถามว่าทำไมถึงไม่เอา Intel Core i7 ที่มีความละเอียดแบบ Full HD ไปเลย ซึ่ง MSI ก็ตอบสนองเป็นอย่างดี โดยการนำ MSI GX660R ลงมาในตลาดข้างบนที่ต้องการ Notebook Gamer ระดับ High-End จริงๆ แล้วสเปกก็อย่างที่เห็นเลย ไม่ต้องงพูดถึงว่าแรงขนาดไหน เดี๋ยวดูกันได้ในหมวดทดสอบ ส่วนเรื่องราคานั้น MSI ยังไม่ได้เปิดเผยแต่อย่างใด โดยทีมงานคาดการณ์ว่าน่าจะราว ๆ ไม่เกิน 6 หมื่นบาท
MSI GX660R มากับความแรงระดับสุดยอดด้วยซีพียูประสิทธิภาพสูงอย่างเจ้า Intel Core i7-740QM มีความเร็วอยู่ที่ 1.73 GHz หน่วยความจำ L3 สูงถึง 6MB สามารถเพิ่มความเร็วได้สูงสุดที่ 2.93 GHz ด้วยเทคโนโลยี Turbo Boost เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads สามารถจัดสรรการประมวลผลได้อย่างชาญฉลาด ทำงานคู่กับการ์ดจอระดับเทพอย่าง ATI Mobility Radeon HD5870 รองรับการทำงานของ DirectX11 อย่างสมบูรณ์แบบ แรมให้มาอย่างมากมายถึง 6GB DDR3 แสดงผลในจอ LED ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ที่ 1920×1080 ฮาร์ดดิสก์ ให้มา 2 ลูก ลูกละ 500 GB โดยได้ทำ Raid 0 คือ การรวมตัวของฮาร์ดดิสก์ตั้งแต่ 2 ลูกขึ้นไปเป็นลูกเดียว ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วจะทำให้อ่านและเขียนได้เร็วมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีพอร์ตใหม่อย่าง USB 3.0 ถึง 2 พอร์ต โดยมี Windows 7 Home Premium ติดมาให้อีกด้วย

รูปนำมาจากรุ่น GX660ซึ่งเป็นบอดี้เดียวกัน

รูปลักษณ์ภายนอก

เริ่มกันด้วยฝาหลังซึ่งเป็นปราการแรกที่เราและคนอื่น ๆ จะได้เห็นและประทับใจกับเครื่อง MSI GX660 ทาง MSI ยังคงใช้ฝาแบบ TriDiamon ในการออกแบบ เส้นแนวที่ฝาจะเป็นเอโลโก้ MSI ไว้ตรงกลางเหมือนเดิม ฝามีลักษณะเป็นผิวเงาสะท้อน รอยนิ้วมือหรือรอยเลอะยังคงเกาะติดได้อยู่ ส่วนเส้นสีเงิน ๆ เล็ก ๆ ยาว ๆ จะเป็นส่วนที่มีไฟ LED เวลาเรากดเปิดที่เซ็นเซอร์สัมผัสบริเวณคีย์บอร์ดด้านใน ซึ่งเดี๋ยวเราค่อยลงรายละเอียดกัน ส่วนบริเวณผิวใกล้ ๆ ตัวเครื่องจะเป็นการออกแบบที่เรียกว่า Totem Pattern (ลายหกเหลี่ยม) เป็นผิวด้าน ๆ เอาไว้ถ้าใครหิ้วเครื่องจากทางด้านนี้ ก็จะไม่ลื่นออกจากมือง่าย ๆ ส่วนด้านล่างเราจะเห็นว่ามีพอร์ตต่าง ๆ อยู่ด้วย เพราะว่าตัวแบตเตอรี่ไม่ได้อยู่ด้านหลัง แต่อยู่ใต้เครื่อง

โลโก้ MSI เวลาเปิดไฟก็จะมีแสงออกมาเหมือนกัน

รูปลักษณ์ภายใน

ผิว วัสดุด้านในก็มีการเล่นเหมือนกัน ที่ตัวเครื่องจะเป็นลาย Totem Pattern เหมือนกัน แต่ว่าเป็นพื้นสีเทา ๆส่วนที่เหลือก็เป็นวัสดุสีดำเงาเหมือนฝาจอ มีวงกลมสีแดงของลำโพงตัดให้ดูโดดเด่น จอเป็นผิวสะท้อน ค่อนข้างลำบากเวลาใช้งานจริง

ขอบยางที่จออันเล็กไปนิด

คีย์บอร์ดขนาดเกือบ Full Size มีการจัดวางค่อนข้างดี

เปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง

เปรียบเทียบขนาดตัวเครื่องกับนิตยสาร HWM

ดูรูปทั้งหมด คลิ้ก

MSI Recovery Disc Creation Tool อันนี้จะเป็นโปรแกรมสำหรับช่วยในการจัดการสร้างแผ่น Recovery ต่าง ๆ ดั่งใจคุณต้องการ ง่ายมาก ๆ เพียงไม่กี่คลิกเท่านั้น

ด้านล่างที่เห็นจะเป็นโปรแกรม Arcsoft Webcam Companion ที่จะมาช่วยจัดการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับวิดีโอและภาพจาก Webcam

ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายของโปรแกรมนี้ ทำให้ท่านสามารถตัดต่อ แก้ไข ได้ตามใจเลย

อันนี้จะเป็นโปรแกรมสำหรับควบคุมไฟ LED รอบ ๆ ตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเปิด-ปิดก็ง่ายมาก ๆ ใครชอบแบบไหนก็จัดเลย

ด้วย MSI LED Manager คุณจะสามารถเห็นรูปแบบการจำลองภาพขณะเปิด-ปิดของ LED รอบ ๆ เครื่องได้ด้วย

OS ที่ใช้ทดสอบเป็น Windows 7 Home Premium 64-bit ของแท้จากโรงงาน

คะแนนที่ได้ออกมา PC บางเครื่องต้องอาย

MSI GX660R มาพร้อมกับ CPU จาก Intel Core i7 ตัวนี้จะเป็นรุ่น Core i7-740QM มีความเร็วอยู้ที่ 1.73GHz พร้อมฟีเจอร์พิเศษTurbo Boost ที่สามารถเพิ่มความเร็วในการทำงานได้ที่ความเร็วสูงถึง 2.93 GHz ถือว่าสูงพอตัวเลย เท่านั้นยังไม่พอยังมี Core ถึง 4 Cores พร้อมฟังก์ชัน Hyper threading ทำให้มี Core เสมือนอีก 4 Cores รวมเป็น 8 Cores เลยทีเดียว และอีกจุดที่สำคัญก็คือ มีแคช L3 ถึง 6 MB

แรมก็ให้มาอย่างจุใจเลย 6GB DDR3 ความเร็วที่ 1333 MHz สามารถใส่ได้สูงสุด 12GB

MSI GX660R มี GPU สุดแรงอย่างเจ้า ATI Mobility Radeon HD5870 มาพร้อมกับแรมการ์ดจอที่ 1 GB DDR5 Bus Width 128 Bit เรียกได้ว่ามองดูเหมือนการ์ดจอ PC เลย แรงมาก

การทดสอบในส่วนของ Resolution ว่ารองรับความละเอียดสูงสุดเท่าไร และในส่วนของ Page view ว่าสามารถแสดงผลหน้า web ได้ขนาดไหน

โปรแกรม Super PI คือ การคำนวณค่า PI จากเส้นรอบวง (กลม)/เส้นผ่านศูนย์กลาง จะได้เป็นค่า 3.14… โดยที่ทศนิยมนั้นเป็นเลขที่ไม่ลงตัวที่มีค่าอนันต์ (เลขหลังทศนิยมไม่มี Loop ซ้ำ) ดังนั้น เมื่อ Loop เป็นค่าอนันต์ เครื่องคอมพิวเตอร์จึงไม่สามารถหยุดการคำนวณได้ ถ้าไม่สั่งให้มันหยุด ในโปรแกรม Super PI จะทำการกำหนดเอาไว้ว่าให้คำนวณที่จุดสิ้นสุดตรงไหน (เช่น 1M คือ คำนวณที่ทศนิยม 1 ล้านตำแหน่ง) โดยแบ่งเป็นช่วง Loop อย่าง PI 1M ใช้ 19 Loop เท่ากับคำนวณ Loop ละ 52632 ตำแหน่ง ต่อ 1 Loop ยิ่งซีพียูมีประสิทธิภาพเท่าไร ยิ่งใช้เวลาคำนวณได้น้อยลง

ความเร็วต่อรอบถือว่าแหล่มมาก

มีหลักการทำงานคล้าย ๆ กับ Super PI แต่จะรองรับการทำงานของซีพียูหลายหัวหรือหลาย Thread พร้อมกัน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลกับตัว Turbo Boost เพราะซีพียูทำงานพร้อมกันหลายหัว ทำให้ความเร็วของซีพียูไม่สูงมาก เพราะจำเป็นต้องแชร์ทรัพยากรเพื่อทำงานในเวลาเดียวกัน

เปิดทำงาน 8 หัวพร้อม ๆ กันก็ทำได้ดีไม่มีตกเลย
wPrime
เป็นโปรแกรมที่จะทดสอบการทำงานในด้านตรรกะของซีพียูอย่างเต็มรูปแบบและความสามารถขีดสุดของซีพียูรุ่นนั้น ๆ

wPrime ถือว่าเป็นโปรแกรมใหม่ที่เรานำมาลงรีวิว ซึ่งเกิดมาจากการเรียกร้องของท่านสมาชิกของเราเองเร็ว ๆ นี้น่าจะทำเป็นกราฟเปรียบเทียบได้
ผลคะแนนออกมาถือว่าเร็วมากเลย
x264 HD Benchmark v3.0
เป็นโปรแกรมที่จะทดสอบการทำงานในด้าน Video Encod หรือการถอดรหัสไฟล์ HD ว่าทำได้ดีขนาดไหน

เป็นโปรแกรมที่จะทดสอบการทำงานในด้าน Graphic Render

แรงสุด ๆ เลย

ทดสอบความเร็วในการอ่านข้อมูลของ HDD

วิธีทดสอบ : ทดสอบความเร็วในการอ่านข้อมูล สเปกของ HDD เป็นฮาร์ดดิสก์ขนาด 1 TB
การทำงานแบบ Raid 0 นั้นทำให้ความเร็วในการอ่านข้อมูลนั้นรวดเร็วขึ้นมาก โดยเฉลี่ยสามารถอ่านได้เร็วถึง 101.7 MB ต่อวินาทีเลยทีเดียว ซึ่งปกติ HDD ทั่วไปจะอยู่ราว ๆ 70 MB กว่า ๆ

PC Mark Vantage

ถือว่าครองแชมป์ไปเลยครับ แรงมาก ๆ

แน่นอนครับว่า คะแนนการทำงานด้านกราฟิกนั้นถือว่าแรงที่สุดตั้งแต่เว็บเราเคยรีวิวมาเลย
Unigine Heaven 2.1
โปรแกรมใหม่ที่จะเข้ามาเสริมการทดสอบการ์ดจอ ซึ่งรองรับ DX11 โดยจะเริ่มทดสอบกันในซีรีส์ 5XXX นี้เป็นซีรีส์แรก

โห ๆ ๆ ทั้งแรงทั้งเนียนครับ สุดยอดจริง ๆ

โปรแกรมทดสอบอีกตัวที่อยากแนะนำ โดยเป็นโปรแกรมที่ทดสอบภาพรวมของเครื่องแล้วสรุปมาเป็นคะแนนรวม ทำให้สามารถเปรียบเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ได้ง่าย อีกทั้งยังแจกแจงคะแนนทดสอบในแต่ละส่วนให้เห็นอีกด้วย

คะแนนระบบโดยรวมออกมาถือว่าแรงมาก ทะลุ 1000+ ได้

Crysis

Devil May Cry 4

Resident Eevil 5

ด้วยความสุดยอดของการ์ดจอ ซีพียู และแรมแล้ว เกมพวกนี้ถือว่าสบาย ๆ เลย เกมทุกเกมที่เทสต์นั้น ผมเทสต์ในความละเอียด Full HD ทั้งหมด ตั้งค่ากราฟิกระดับสูง แต่ไม่ได้เปิด AA

Hardware Monitor
อุณหภูมิแวดล้อมขณะทดสอบประมาณ 35-36 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิก่อน Burn-in

วิธีทดสอบ : ขั้นแรกจะเป็นการทดสอบโดยการเปิดใช้งานเครื่องทั่วไป เช่น เล่นอินเทอร์เน็ต พิมพ์งาน
Burn-in CPU

วิธีทดสอบ : ทดสอบโดยการ Burn-in โดยใช้โปรแกรม CPU Burn-in 4 หน้าต่างโปรแกรม เพื่อรันซีพียูให้ทำงานที่ 100% และเปิดเกมเพื่อให้การ์ดจอทำงานเป็นเวลา 3 ชั่วโมงในช่วงเวลากลางวัน
อุณหภูมิหลัง Burn-in

อุณหภูมิเป็นไปตามที่คาดหมายครับ เครื่องแรงกินไฟเยอะ ก็ต้องร้อนเป็นธรรมดา แต่ไม่เกิน 85 องศา ถือว่าทำได้ดีพอตัว

และนี่ก็คือ MSI GX660R สุดยอดเกมเมอร์ตัวจริงแห่งยุคครับ ด้วยผลทดสอบที่ออกมาอย่างชัดเจนเลยว่า MSI GX660R เหมาะสมกับการทำงานหนัก ๆ เล่นเกมโหด ๆ ได้จริง ๆ จะดูหนังหรือจะฟังเพลงก็ตัวนี้ตัวเดียวเลย การออกแบบดีไซน์ก็ถือว่าเอาเจเนอร์เรชันใหม่ของยุค G Series ปี 2010 มาเป็นรูปลักษณ์ภายนอก ดูดี มีมิติ และที่สำคัญสัมผัสได้ถึงสินค้าระดับพรีเมียม แต่ก็เป็นจุดสังเกตได้ในเรื่องของความหนา และน้ำหนักของตัวเครื่องที่มีความหนาค่อนข้างมาก และน้ำหนักที่มากกว่า 3.5 กิโลกรัม แต่กระนั้นก็แลกมาด้วยสเปกสุดโหดอย่าง Core i7 หรือจะเป็นการ์ดจอระดับเทพอย่าง ATI Mobility Radeon HD5870 ที่แสดงผลบนหน้าจอความละเอียดระดับ Full HD เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีการทำงานของฮาร์ดดิสก์แบบ Raid 0 อีกต่างหาก ถือว่าใส่มาครบครันเลย ทีมงาน NBS ขอฟันธงเลยว่า MSI GX660R ต้องเป็นหนึ่งในตัวเลือกของเกมเมอร์ที่ต้องการหา Notebook สักเครื่องที่เล่นเกมได้ทุกเกมในปัจจุบันนี้