สำหรับ MSI นั้นกำลังเป็นที่สนใจและติดตามกันในวงกว้างของ Notebook Gamer ที่ทำออกมาได้แรงเหมาะสมกับราคาและของแถม วันนี้เราก็มาดู Notebook ของ MSI กันบ้างดีกว่าครับ ซึ่งรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณได้เลยดีเดียวครับ และการเปิดตัวของ MSI CX 420 ยังไม่เป็นทางการ แต่ได้มีการนำไปลงโบรชัวร์กันแล้วนั้น และขุมพลังที่ติดมาก็จะเป็นขุมพลังของค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Intel Core i3-330M และกราฟิกจาก ATI Mobility Radeon HD 5470 อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบสลับการ์ดจอ Hybrid ไว้สำหรับใช้งานในสองรูปแบบ และใช้พลังงานตามการใช้งานจริง และการสลับระบบแสดงผลทำได้อย่างรวดเร็วขึ้น พร้อมกับแรมอีกตั้ง 4 GB เป็นแบบชนิด DDR3 และเป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มี OS ติดเครื่องมาให้ และที่โดดเด่นอีก นั่นก็คือลำโพง SRS Premium Sound ที่ให้ประสบการณ์ในด้านความบันเทิง จากรูปแบบเสียงที่มีมิติ พร้อมกล้อง Webcam 1.3 MPixels แบตเตอรี่ขนาด 6-Cells Li-ION และส่วนสำคัญที่สุดเลยสำหรับตัวนี้จะเป็นจอแบบ LED HD ครับ ช่วยประหยัดไฟได้ในระดับหนึ่งเลยครับ
เริ่มดันด้วย Adapter ที่หลายๆ ท่านสนใจ สำหรับรุ่นนี้จะใช้ยี่ห้อ DELTA ขนาดเล็ก ซึ่งในขณะที่เล่นก็ร้อนปกติพอสมควรครับ
ภาพบอดี้ส่วนนอกที่จะเป็นรายละเอียดหลักของตัวเครื่อง
หน้าจอจะกางออกได้ประมาณ 180 องศาครับสำหรับรุ่นนี้
จอภาพขนาดมาตรฐาน 14 นิ้ว Widescreen ที่ความละเอียด 1366 x 768 แบบจอกระจก LED คมชัด ขอบของจอจะเป็นสีดำเงา ทำให้ดูดุดันมากขึ้นครับ แต่เป็นรอยง่ายนิดหนึ่งนะครับสำหรับรุ่นนี้
มุมด้านข้างกันบ้างครับ
เมื่อเทียบกับหนังสือก็ดูยาวกว่าหนังสืออีกครับ ซึ่งก็เท่ากับโน้ตบุ๊กคทั่วๆ ไปครับ
เมื่อเทียบขนาดกับกล่อง DVD ก็ได้ออกมาอย่างที่เห็นครับ หนากว่าอยู่เล็กน้อย โดยด้านหลังจะมีขารองเพื่อช่วยระบายอากาศ จึงทำให้ตัวเครื่องดูหนาครั
เป็นด้านใต้ท้องเครื่อง รวมถึงช่องระบายความร้อนใต้ท้องเครื่อง
ใต้ท้องเครื่องนั้นสามารถเปิดได้ 2 ส่วนด้วยกัน ช่องระบายอากาศหลายๆ ช่องทำให้อากาศถ่ายเทได้เป็นอย่างดี และ 2 คู่ล่างด้านหน้าจะเป็นลำโพง SRS Premium Sound
เห็ 2 ช่องเล็กๆ ไม่ต้องตกใจนะครับ ไม่ใช่ที่ระบายอากาศ แต่ที่จริงแล้วมันเป็นลำโพงครับ
ด้านในของตัวเครื่อง
ถอดง่ายมากครับสำหรับรุ่นนี้ แต่แกะฝาหลังยากอยู่พอสมควรเลย มันแน่นพอควรครับ เปิดฝาเดียวเห็นหมดเลยครับ ทั้ง แรม, CPU, กราฟิคการ์ด ระบบระบายความร้อนที่เป็นท่อนำความร้อน 2 ท่อ วิ่งยาวตั้งแต่ซีพียู การ์ดจอ จนมาถึงพัดลมระบายความร้อน พัดลมระบายความร้อนระบายความร้อนออกมาได้แรงพอสมควร
และในส่วนของฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ 2.5 นิ้ว แยกส่วนออกจากบอร์ด ช่วยให้ไม่ต้องมีความร้อนอัดแน่นมากจนเกินไป และจะมีตัวล็อกฮาร์ดดิสก์อีกชั้นหนึ่งเพื่อความปลอดภัยครับ
แรมให้มา 4 GB เป็นแบบ DDR3 ความเร็ว 1066 MHz ทั้ง 2 Slots เลยครับ สามารถรองรับได้สูงสุด 8 GB ครับ
คีย์บอร์ดของ MSI CX 420 เป็นแบบยกตัวแยกออกจากกันค่อนข้างกว้าง ช่วยให้พิมพ์ลงไปค่อนข้างแม่นยำ ลดความผิดพลาดในการพิมพ์ผิด แต่ข้างๆ ของปุ่มที่คีย์บอร์ดนั้นค่อนข้างจะคมทีเดียวครับ
อีกมุมหนึ่งของปุ่มในคีย์บอร์ด
ด้านบนก็จะเป็นลำโพง
รองรับการใช้งาน Function ต่างๆ ครบครันเช่นเคยกับรูปแบบ FN+…
ขนาดของคีย์บอร์ดโดยรวมจะพอดีกับตัวเครื่อง มีระยะด้านข้างเล็กน้อย
TouchPad ใช้งานง่าย การ Scroll ขึ้นลงได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส และลื่นไม่ติดขัดเลยครับและปุ่มเมาส์ดูแข็งแรงเป็นชิ้นเดียวกัน กดง่ายและสะดวกต่อการใช้งานมากครับ
ไฟสถานะของตัวเครื่องจะอยู่ทางใต้ของ TouchPad มีไฟเครื่อง, ไฟแบตเตอรี่, ไฟ Wireless และไฟบลูทูธที่อยู่ตรงที่ดูง่ายและสะดวกด้วยครับ
ส่วนทางด้านบนจะมีปุ่มเปิดเครื่อง โดยจะเป็นไฟสีฟ้าๆ โชว์ครับ และปุ่มสลับการ์ดจอในระบบ Hybrid และปุ่มเปลี่ยนโหมดต่างๆ ของเครื่องตรา MSI ก็อยู่ตรงกลางเหมือนเคยครับ
สำหรับสติกเกอร์บน MSI CX420 ก็นับว่าครบครันตามสูตรต้นฉบับ โดยทาง MSI ออกแบบมามีสีสันเข้ากันกับตัวเครื่องได้ดี พร้อมตรารับประกันประสิทธิภาพจาก Intel Core i3, SRS PREMIUM SOUND
ด้านซ้ายจะมี USB 2 พอร์ต, ช่องต่อหูฟังและไมค์ และไดรฟ์ DVD-RW
ทางด้านขวาเริ่มด้วย Card Reader, Express Slot, USB 1 พอร์ต, พอร์ต HDMI, ช่องระบายความร้อน, ช่องเสียบ Adapter และ Kensington Lock เมื่อใช้งานจริงพบว่า ความร้อนที่ออกจากบริเวณรูระบายอากาศนั้นมีอุณหภูมิสูงพอสมควร แต่ทำไมจึงต้องมาไว้ด้านขวา ซึ่งเป็นที่จับเมาส์ ทาง MSI ได้ออกแบบมาไว้ทางนี้ก็เพราะว่าเมื่อเวลาเราเล่นจริงๆแล้วนั้น คนเราปกติจะเอามือลงต่ำกว่า หรือขยับให้อยู่ใกล้ๆกับตัว เพื่อที่จะได้ควบคุมทิศทางได้ถนัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ไม่ไปโดนเข้าช่องระบายความร้อนอยู่แล้ว โอ้ว!! ความคิดที่ทาง MSI ได้ใส่ลงมา
คุณภาพของ Webcam และระบบเสียง
จะมีกล้องเว็บแคมอยู่บริเวณขอบหน้าจอด้านบนคล้ายๆ กับรุ่นอื่นๆ กับความละเอียด 1.3 Mpixel และด้านข้างของกล้องนี้จะมีไมค์อยู่ข้างๆ ด้วย เวลาคุยกับหญิงจะได้ไม่ต้องก้มหน้าลงไปคุยละครับงานนี้
ลำโพง SRS Premium Sound สำหรับประสิทธิภาพเสียงหากใครเคยได้ยินได้ฟังก็ครบมิติ ดีกว่าลำโพงโน้ตบุ๊กทั่วๆ ไปพอสมควร
แบตเตอรี่ขนาด 6 Cell Li-ion สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้สูงสุดที่ 46,256 mWh
ในส่วนของแบตเตอรี่ค่า Rating 10.8V ความจุ 4400 mAh
Exclusive ECO Engine Power Management System
ECO ENGINE [ECO-MODE] : เป็นโหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งโหมดนี้จะช่วยจัดการบริหารทรัพยากรภายในเครื่องเราอย่างชาญฉลาด เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน และใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น โดยจะมีโหมดย่อยของการใช้งานแต่ละประเภท เราสามารถเลือกใช้ได้ตรงตามต้องการของการใช้พลังงานในตัวเครื่อง ซึ่งจะทำให้เราใช้งานได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น โดย ECO-Mode จะแบ่งออกตามการฟังก์ชันใช้งาน ดังนี้
Gaming Mode : เป็นโหมดสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ระบบ ECO ตัวเครื่องจะปรับการประมวลผลให้เข้ากับการเล่นเกมในขณะนั้น เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้อย่างเต็มที่
Movie Mode : เป็นโหมดที่ระบบจะปรับการประมวลผลให้เข้ากับการใช้งานประเภทดูหนัง รวมถึงการใช้งานมัลติมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง ดูภาพยนตร์ จะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพคุ้มค่าการใช้พลังงานของตัวเครื่องได้ อย่างสมบูรณ์
Presentation Mode : เป็นโหมดสำหรับผู้ที่ต้องการนำไปใช้ในส่วนของการนำเสนองาน ซึ่งการใช้โน้ตบุ๊กในการนำเสนองาน จะเห็นได้ว่าจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาการใช้งานตัวเครื่องที่นาน ดังนั้น ระบบ ECO จะช่วยให้ประหยัดพลังงานมายิ่งขึ้น
Office Mode : เป็นโหมดสำหรับการใช้พิมพ์งานหรืองาน เอกสาร ซึ่งการใช้งานในรูปแบบนี้จะเหมาะกับการใช้งานข้างนอก เพื่อจัดสรรพลังงานให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
Turbo Battery Mode : เป็นโหมดที่เครื่องโน๊ตบุ๊คจะทำการประมวลผล ให้ใช้พลังงานอย่างเพียงพอและเหมาะสมมากที่สุด เพื่อให้ผู้ใช้ สามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลาที่นานขึ้น
ECO OFF : ปิดโหมดประหยัดพลังงาน (ปิด ECO-MODE)
ตามสเปกของเครื่องแล้ว เจ้าตัว MSI CX 420 ไม่ได้มี OS มาให้ ทางเราจึงได้ลง Windows7 เพื่อการทดสอบครับ
คะแนนของ ATI Mobility HD 5470 คะแนนกราฟิกโดดอย่างเห็นได้ชัด
คะแนนของ Intel GMA HD ซึ่งจะต่างกันอย่างเยอะมากเลยครับในคะแนนของส่วนนี้
MSI CX 420 มาพร้อมซีพียูสถาปัตยกรรมใหม่อย่าง Core i3 โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการผลิตใหม่แบบ 32 nm พร้อมการ์ดจอในซีพียู ซึ่งจะช่วยในการถอดรหัสวิดีโอ ทำให้ซีพียูไม่ต้องทำงานหนัก โดยมาในรุ่นล่าง Core i3 330M ความเร็ว 2.13 GHz ระบบแคชแบบ L3 ที่ 3 MB มีจำนวน Core เดิมๆ ที่ 2 Cores พร้อม Hyper Threading ทำให้สามารถทำงานพร้อมกันได้ 4 Threads พร้อมๆ กัน และตัวควบคุมหน่วยความจำในตัวที่ทำให้ CPU มีประสิทธิภาพสูงสุด ประหยัดพลังงานกว่ารุ่นก่อนๆ ซึ่งทำงานร่วมกับชิปเซตตัวจิ๋วอย่างเจ้า Intel HM 55 รวมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
MSI CX420 ตัวนี้มาพร้อมกับแรม 4 GB แบ่งเป็น 2 Slots แผงละ 2 GB ความเร็วที่ 1066 MHz ครับ
สังเกตได้ว่าจะมีกราฟิกอยู่ด้วยกัน 2 ตัวอย่างเห็นได้ชัด
ATI Mobility Radeon HD 5470
Intel GMA HD
ค่าของไดรฟ์รองรับตามมาตรฐาน DVD-RW ทั่วไป
การทดสอบในส่วนของ Resolution ว่ารองรับความละเอียดสูงสุดเท่าไร และในส่วนของ Page view ว่าสามารถแสดงผลหน้า web ได้ขนาดไหน
Resolution รองรับได้ที่ 1366 x 768 เป็นความละเอียดมาตรฐานระดับ Widescreen จอภาพมาตรฐาน 14 นิ้ว
โปรแกรม Super PI คือ การคำนวณค่า PI จากเส้นรอบวง (กลม)/เส้นผ่านศูนย์กลาง จะได้เป็นค่า 3.14… โดยที่ทศนิยมนั้นเป็นเลขที่ไม่ลงตัวที่มีค่าอนันต์ (เลขหลังทศนิยมไม่มี Loop ซ้ำ) ดังนั้น เมื่อ Loop เป็นค่าอนันต์ เครื่องคอมพิวเตอร์จึงไม่สามารถหยุดการคำนวณได้ ถ้าไม่สั่งให้มันหยุด ในโปรแกรม Super PI จะทำการกำหนดเอาไว้ว่าให้คำนวณที่จุดสิ้นสุดตรงไหน (เช่น 1M คือ คำนวณที่ทศนิยม 1ล้านตำแหน่ง) โดยแบ่งเป็นช่วง Loop อย่าง PI 1M ใช้ 19 Loop เท่ากับคำนวณ Loop ละ 52632 ตำแหน่ง ต่อ 1 Loop ยิ่งซีพียูมีประสิทธิภาพเท่าไร ยิ่งใช้เวลาคำนวณได้น้อยลง
MSI CX420 Intel Core i3 ทำเวลาออกมาได้ดีพอสมควร 20.654 วินาทีแค่นั้น ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีเลยทีเดียวครับ
มีหลักการทำงานคล้ายๆ กับ Super PI แต่จะรองรับการทำงานของซีพียูหลายหัวหรือหลาย Thread พร้อมกัน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลกับตัว Turbo Boost เพราะซีพียูทำงานพร้อมกันหลายหัว ทำให้ความเร็วของซีพียูไม่สูงมาก เพราะจำเป็นต้องแชร์ทรัพยากรเพื่อทำงานในเวลาเดียวกัน
ถึงแม้จะสั่งให้ทำงานทุกหัว แต่ก็ยังสามารถทำเวลาออกมาได้ดีเลยครับ
เป็นโปรแกรมที่เน้นทดสอบความแรงด้านกราฟิก 3D ของซีพียู นิยมนำมาทดสอบเพื่อวัดประสิทธิภาพของซีพียูเป็นหลักครับ
ผลทดสอบจะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ทดสอบแบบ Core เดียว (1 CPU) ซึ่งได้คะแนน 2,332 CB และการทดสอบแบบหลาย Core (x CPU) ได้คะแนนที่ 5,488 CB ครับ
ทดสอบความเร็วในการอ่านข้อมูลของ HDD
วิธีทดสอบ : ทดสอบความเร็วในการอ่านข้อมูล สเปกของ HDD เป็นฮาร์ดดิสก์ขนาด 500 GB 5400 RPM
จากการทดสอบความเร็วสูงสุดในการอ่านข้อมูลจะอยู่ที่ 71.1 Mb ต่อวินาที ใช้เวลาในการเข้าถึงข้อมูลอยู่ที่ 18.9 ms (ยิ่งน้อยยิ่งดี)
เมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์ความเร็ว 5400 RPM รุ่นอื่นๆ แล้วนับว่าเร็วมากเลยทีเดียวครับ
ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องทั้งหมดด้วยโปรแกรม PCMark05
ATI Mobility Radeon HD 5470
Intel GMA HD
คะแนนที่ออกมาชี้ได้อย่างชัดเจนว่า Intel GMA HD ทำออกมาได้ดีกว่า GMA 4500HD รุ่นเก่าพอสมควร
วิธีทดสอบ : รันโปรแกรมโดยให้ทดสอบทั้ง System, CPU, Memory, Graphics, HDD
สามารถทำคะแนนออกมาได้สูงเลยทีเดียวในหลายๆ ส่วน
.ทดสอบระบบกราฟิกด้วยโปรแกรม 3DMark06
ATI Mobility Radeon HD 5470
คะแนนก็เป็นไปตามความสามารถของการ์ดจอครับ นับว่าทำคะแนนทางด้าน 3D ได้ดีเลยทีเดียวครับ
Intel GMA HD
ประสิทธิภาพลดลงมาเพื่อให้ประหยัดพลังงาน นับได้ว่าถ้าเปลี่ยนโหมดเป็นของ Intel GMA ละก็ การประมวลผลทาง 3D ก็จะลดต่ำลงด้วยครับ
โปรแกรมทดสอบอีกตัวที่อยากแนะนำ โดยเป็นโปรแกรมที่ทดสอบภาพรวมของเครื่องแล้วสรุปมาเป็นคะแนนรวม ทำให้สามารถเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆได้ง่าย อีกทั้งยังแจกแจงคะแนนทดสอบในแต่ละส่วนให้เห็นอีกด้วย
ATI Mobility Radeon HD 5470
คะแนนนั้นออกมาต่างกันพอสมควรเลยทีเดียวนะครับ
เป็นโปรแกรมที่สามารถทดสอบเครื่องได้หลายๆ ส่วน เช่น ซีพียู ฮาร์ดดิสก์ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง อีกทั้งสามารถเลือกซีพียูรุ่นอื่นๆ มาเปรียบเทียบได้ด้วย
โดยจะแบ่งเป็น 3 แบบ คือ
1. Processor Arithmetic ทดสอบซีพียู
2. Memory Bandwidth ทดสอบ Bandwidth ของ Memory ในส่วนของชิปเซตและแรม
3. Physical Disks ทดสอบความเร็วในการทำงานของฮาร์ดดิสก์
Hardware Monitor
อุณหภูมิแวดล้อมขณะทดสอบประมาณ 34-37 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิก่อน Burn-in
วิธีทดสอบ : ขั้นแรกจะเป็นการทดสอบโดยการเปิดใช้งานเครื่องทั่วไป เช่น เล่นอินเตอร์เน็ต พิมพ์งาน อุณหภูมิจะขึ้นอยู่ราวๆ 40-50 องศาเซลเซียส แล้วแต่สภาพห้องและความร้อน
หลังจากนั้นจะทดสอบด้วยวิธี
Burn-in CPU
ATI Mobility Radeon HD 5470
Intel GMA HD
วิธีทดสอบ : ทดสอบโดยการ Burn-in โดยใช้โปรแกรม CPU Burn in 4 หน้าต่างโปรแกรม เพื่อรันซีพียู ให้ทำงานที่ 100% เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ในช่วงเวลากลางวัน
อุณหภูมิหลัง Burn-in
ทดสอบเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่
แบบที่ 1 ใช้งานทั่วไป
วิธีทดสอบ : ทดสอบใช้งานทั่วๆ ไป เช่น พิมพ์งาน เล่นอินเตอร์เน็ตผ่าน Wireless โดยปรับความสว่างของจอภาพสว่างสุด สามารถใช้ได้นานประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งครับ
แบบที่ 2 ใช้งานหนักๆ
เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่
วิธีทดสอบ : ทดสอบโดยการชาร์จแบตเตอรี่ พร้อมกับเปิดใช้งานเครื่อง
ก็จบลงไปแล้วครับสำหรับ Notebook MSI CX 420 การออกแบบก็สวยงามไม่น้อย มีการเคลือบ Glossy Coating ถือว่าไม่เรียบจนเกินไป ดูเข้มๆ ดุดันดี คีย์บอร์ดก็เป็นชนิดแบบยกตัวขนาดใหญ่ ง่ายและสะดวกต่อการพิมพ์งาน แต่ขอบของปุ่มแต่ละปุ่มบนคีย์บอร์ดค่อนข้างจะคมครับ ทำให้เวลาเอามือรูดจะรู้สึกว่าโดนบาด ในส่วนของจอภาพเองก็สีสด แถมประหยัดพลังงานด้วยเทคโนโลยี LED Panel ในด้านของเทคโนโลยีของเสียงจะโดดเด่นมาก โดยจะใช้ลำโพง SRS Premium สำหรับเจ้าโน้ตบุ๊กรุ่นนี้ และสิ่งที่ชูโรงเลยก็เห็นจะเป็นเทคโนโลยีแบบ Hybrid นะครับ ซึ่งสามารถสลับการ์ดจอได้โดยทันที โดยไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่องแต่อย่างใด เพื่อช่วยประหยัดพลังงานได้ในระดับหนึ่ง ถ้าสรุปกันง่ายๆ คือ เจ้าโน้ตบุ๊กตัวนี้ก็ได้ตอบสนองความต้องการของนักเรียน นักศึกษา หรือบุคคลที่ทำงานได้ในระดับหนึ่งเลยละครับ แถมยังมีน้ำหนักไม่มาก พกพาสะดวกอีกด้วยครับ ส่วนหน้าจอนั้นก็สามารถเปิดได้มากเป็นพิเศษ เพราะกางได้ 180 องศา สามารถทำเป็น Presentation Notebook ได้ครับ
MSI CX 420NBS เราได้มีการมอบรางวัลให้กับโน้ตบุ๊กที่ผ่านการประเมินคะแนนในด้านต่างๆ เพื่อมอบเป็นรางวัลให้แก่โน้ตบุ๊กรุ่นนั้นๆ ที่เราได้ทดสอบไป
โดยจะตัดสินจาก 6 หัวข้อหลัก ได้แก่
- Design
- ความคุ้มค่า (Value)
- Performance
- ความสะดวกในการพกพา (Mobility)
- ความคงทนแข็งแรง (Durability)
- Gaming
โดยระดับคะแนนที่ได้รางวัลต่างๆ ได้แก่
25 คะแนนขึ้นไป
15 คะแนนขึ้นไป
- 3/5 –Design
- 4/5 –ความคุ้มค่า (Value)
- 3/5 –Performance
- 3/5 –ความสะดวกในการพกพา (Mobility)
- 3/5 –ความคงทนแข็งแรง (Durability)
- 3/5 –Gaming
notebookspec.com จึงขอมอบรางวัล Silver แก่ MSI CX 420