สเป็ก ต่างๆของตัวเครื่องที่ให้มา เป็นระดับ Top ของเน็ตบุ๊ก ไม่ว่าจะเป็นซีพียู Aton N550 Dual Core แรม ฮาร์ดดิสก์ 320 GB หรือแบตเตอรี่แบบ 8 เซล
ฝา หลังตัวเครื่องทำลายที่ฝาหลังออกมาแบบแพรวพราวมาก กราฟฟิกขนาดนี้ไม่เคยเห็นเจ้าไหนทำมาก่อนเลย นั่งเล่นอยู่ไกลระยะ 100 เมตร ยังรู้ว่านั่น Lenovo นี่นา
ยกฝาขึ้นเล็กน้อย ดูสวยงามไม่เบา
ด้านในเป็นทูโทน แป้นคีย์บอร์ดขาว ตัดกับขอบจอดำ
สติ๊กเกอร์บ่งบอกสรรพคุณ
มีทั้งด้านขวา และซ้าย
ที่ มุมล่างซ้ายของจอจะมีปุ่ม Hot Key อยู่ 3 ปุ่ม ปุ่มบนสุดจะเป็นปุ่มเรียกโปรแกรม Lenovo Netural Touch ตรงกลางจะเป็นปุ่มสำหรับหมุนหน้าจอ เวลาที่เราใช้งานตัวเครื่องแบบ Tablet หรือถือด้วยมือแล้วใช้นิ้วจิ้มอยู่ จะมาสามารถสั่งให้หมุนได้ 3 ทิศทาง ปุ่มล่างสุดจะเป็น เปิด/ปิด ลำโพง เลื่อนลงมาอีกนิดจะมีไฟบอกสถานะต่างๆของเครื่อง โดยจะใช้ไฟสีขาวทั้งหมด แต่ที่ไฟสถานะของแบตเตอรี่จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม เมื่อปริมาณประจุไฟในก้อนแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 20%
ตัวไฟสามารถมองเห็นได้จากช่องที่ด้านหลังของฝาหลังด้วยเช่นกัน
ทางด้านขวาจะเป็นปุ่มเปิดเครื่อง แล้วจะมีตัวล็อกป้องการเผลอไปกดโดนด้วย
แกนบานพับของฝาเครื่องก็จะเปิดออกไปได้จนสุด 180 องศาเลย
จอสามารถบิดหมุนได้ด้วย
พลิกออกมาแบบนี้เลยก็ยังไหว
เอา มาถือจิ้มเลยครับ เพราะจอเป็นแบบสัมผัส Capacitive อยู่แล้ว ไม่ต้องถามหาปากกา ไม่จำเป็นต้องใช้ ใช้นิ้วจิ้มได้เลย มีวิดีโอตัวอย่างการใช้งานมาให้ชมกันด้วย ด้านล่างเลย
แกนข้อพับที่ช่วยให้จอหมุนได้ ชุบโครเมี่ยมวาววับ จับใจ ที่ด้านนอกจะมองเห็นตัวหนังสือชื่อรุ่นสีเทาสวยงาม
ด้านในจะมีตัวเลขบอกว่าสามารถหมุนไปทางซ้ายและขวา ได้ 180 องศา
น้ำหนักตัวเครื่องรวมแบตอยู่ที่ 1 โลครึ่ง
พา เนลด้านซ้ายตัวเครื่องจะประกอบไปด้วย ช่องล็อก Kensington, ช่องตาสายไฟ adapter, ช่องต่อสาย LAN, ซิงค์ระบายความร้อน, ช่องต่อไมโครโฟน และ ช่องต่อหูฟัง
มา ต่อที่ด้านขวา ซ้ายสุที่เห็นสวิทช์เลื่อนได้ ใช้สำหรับเปิด/ปิด wifi ถัดมาจะเห็นเป็นรูกลมๆ ดำๆ จริงๆแล้วจะเป็นช่องทำหรับต่อสายอากาศสำหรับรับชมทีวี แต่ว่าตัวที่ขายในไทยนี้จะไม่มี เลยใส่ยางอุดปิดเอาไว้ ต่อมาก็จะเจอกับ USB 2.0 สองช่อง และลำดับสุดท้ายช่องต่อจอแยก D-Sub
มาที่ด้านหน้า ด้านซ้ายจะเป็นรูรับเสียงของไมโครโฟนของตัวเครื่อง ใช้พูดคุยผ่าน Skype หรือ Windows live messenger ได้เลย
เลื่อนมาทางขวาอีกหน่อย จะเจอกับช่องเสียบ SD การ์ด
ด้านใต้ของตัวเครื่อง จะมีสติ๊กเกอร์ต่างๆ และช่องระบายความร้อน 2 ที่
ช่องระบายความ เป็นอะไรที่โดดเด่น กว่ายี่ห้ออื่นจริงๆ จุดเล็กน้อยแบบนี้ก็ยังใส่ใจในการออกแบบ
มีช่องใส่ซิมการ์ดในตัวด้วย รองรับระบบ 3G อีกต่างหาก แต่อาจจะต้องทำการอัพเกรดอุปกรณ์เพิ่มเติมสักเล็กน้อย
เปิดฝาด้านใต้ออกมาก็จะเจอกับฮาร์ดดิสก์ 1 ลูก
ใกล้ๆกันก็ช่องใส่ RAM 1 ช่อง ที่มีใส่มาจากโรงงานอยู่แล้ว 1 ตัว
ขนาด ของปุ่มคีย์บอร์ดใหญ่กว่าเน็ตบุ๊กปกติอย่างเห็นได้ชัด ช่วยเพิ่มความสะดวกในการพิมพ์ได้อย่างมาก สำหรับคนที่นิ้วใหญ่หน่อยจะใช้งานได้สบายมาก แต่ก็จะมีบางปุ่มที่เนื้อที่ก็ยังไม่อำนวยให้ทำออกมาใหญ่อยู่ดี อย่างปุ่ม ` (Grave Accent) ที่เรามักใช้ในการกดเปลี่ยนภาษาในการพิมพ์ และอีกจุดที่อาจจะสร้างความไม่สะดวกสำหรับคนที่ชินกับคีย์บอร์ดทั่วๆไปอยู่ อย่าง คือตำแหน่งของปุ่ม Ctrl กับ Fn นั้นสลับที่กัน สำหรับคนที่ชินแบบปกติอย่างผม มักจะกดผิดบ่อยๆ แต่หากชินแล้วก็คงไม่เป็นปัญหาอะไร
ด้าน ทัชแพดก็จะเป็นแบบผิวไม่เรียบ มีปุ่มเล็กๆเรียงอยู่ เพื่อให้สามารถเลื่อนนิ้วได้อยากราบรื่น และทำให้เรารู้ว่ากำลังแตะโดนมันอยู่ เวลาที่กำลังมองหน้าจออยู่ ตัวปุ่มกดจะไม่ได้แยกออกมา แต่จะซ่อนอยู่ที่ใต้แผ่นทัชแพดเลย จะสังเกตได้จากจุดสีส้มๆที่มุมซ้ายล่าง และขวาล่างของทัชแพด ขนาดก็อาจจะเล็กไปสักหน่อย ตามสไตล์เน็ตบุ๊ก
กล้อง เว็บแคมที่มีมาให้จะมีความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล รูปกล้องด้านบนจะเป็นไฟสถานะบอกการทำงาน ว่ากล้องเปิดทำงานอยู่รึเปล่า ซึ่งก็จะเป็นสีขาวอีกเช่นกัน เหมือนกับไฟสถานะเครื่องที่ด้านล่างของจอ แต่ตำแหน่งของตัวกล้องจะไม่ได้อยู่ที่ตรงกลางด้านบนของตัวจอ แต่จะอยู่ตรงบริเวณด้านขวาแทน เวลาใช้งานภาพที่เห็นจากกล้องก็จะเป็นการมองจากด้าน ไม่ได้มองหนาตรงๆเหมือนกล้องที่อยู่ตรงกลางด้านบน
ลำโพง ของ S10-3t จะอยู่บริเวณใต้จอ ทางด้านซ้าย และด้านขวา คุณภาพเสียงที่ได้อยู่ในขั้นที่โอเค เสียงยังชัดเจน แต่ความดังอาจจะไม่มากสักเท่าไหร่
แต่ หากเป็นการต่อใช้งานกับหูฟังผ่านช่อง mini stero ก็จะมีระบบเสียงจาก Dolby เพิ่มขึ้นมา เสียงที่ได้สมกับความเป็น Dolby เลย รายละเอียดของเสียงเก็บได้อย่างหมดจด ความทุ้มนุ่มลึกสามารถถ่ายทอดออกมาได้ หากชอบการฟังเพลงสไลต์ POP หรือ Hip Hop เบสแน่นๆมันๆล่ะก็ จะฟังสนุกขึ้นเป็นกองเลย เสียงแหลมก็ยังคงเก็บได้ดีไม่มีการบาดหู ด้วยความเป็น Dolby เรื่องภาพยนต์เป็นงานหลักอยู่แล้ว โทนเสียงที่ทำออกมาจึงน่าจะทำเผื่อสำหรับการรับชมภาพยนต์ด้วย เรียกว่าดูสนุก เต็มที่ แน่นอน
โปรแกรม ที่แถมมาด้วยกับตัวเครื่อง ที่เป็นโปรแกรมจาก Lenovo จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 ตัว 2 ตัวแรกเป็นโปรแกรมที่สามารถสั่งงานด้วยการแตะบนหน้าจอได้ ผมเลยนำเสนออออกมาในรูปแบบวิดีโอให้ได้ชมกัน เพื่อความง่ายในการเข้าใจ และเห็นภาพชัดเจนในความลื่นไหน และความเร็วในการตอบสนองของตัวโปรแกรม
โปรแกรม VeriFace น่าจะเป็นที่รู้จักกันสำหรับใครที่เคยได้ใช้ หรือรู้จัก Lenovo กันมาแล้ว เพราะว่าเป็นโปรแกรมหลักที่เป็นจุดขายของยี่ห้อนี้เลย มันคือโปรแกรมสแกนใบหน้า แล้วทำการจดจำไว้ ใช้เป็นเครื่องยืนยันตัวตนของเจ้าของเครื่อง สำหรับใครที่ไม่ต้องการให้คนอื่นๆมาเปิดเครื่องเราเล่นตามอำเภอใจ ก็จะต้องทำการล็อกเครื่อง แล้วเวลาที่เราจะเข้าใช้งานก็เพียงแค่ยื่นหน้าหล่อๆ สวยๆ (แน่ใจเหรอนั่นน่ะ) ของเราเข้าไปที่หน้ากล้องให้มันอ่านก็จะสามารถเข้าใช้งานได้เลย โดยไม่ต้องมาเสียเวลานั่งพิมพ์รหัสผ่านกันให้ยุ่งยาก การใช้งานจริงก็ไม่ยุ่งยากเลย ยื่นหน้าให้เข้าไปอยู่ในกรอบ รอไม่กี่วินาที เครื่องก็ล็อกอินเข้าให้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องกดปุ่มใดๆทั้งสิ้น
โปรแกรม Energy Management จะเป็นโปรแกรมที่มีการตั้งค่าโปรไฟล์ในโหมดต่างๆมาจากทาง Lenovo เองครับ ซึ่งจะมีรูปแบบแตกต่างกันไปในแต่ละโหมด ไล่เรียงไปตั้งแต่โหมด จริงๆใน Windows เองก็นั้นก็มีโปรไฟล์ แต่จะมีหลักๆอยู่แค่ 3 อัน แต่โปรแกรมของ Lenovo นี้มีทั้งหมดถึง 5 อัน
สำหรับ โปรแกรม Onekey Recovery นี้ ก็จะเป็นโปรแกรมสำหรับการ สำรองข้อมูล, ย้อนเวลาเครื่องกลับยังจุดที่ได้ทำการเซฟเอาไว้ เวลาที่เครื่องเกิดปัญหา หรือจะเป็นการสร้างแผ่น DVD ข้อมูลสำหรับใช้ทำการซ่อมแซมเวลาที่เครื่องมีปัญหา การเรียกใช้งานโปรแกรมสามารถเรียกได้จากใน Start Menu หรือปุ่มพิเศษสำหรับการเรียกใช้งานโดยเฉพาะ จะเป็นปุ่มเล็ก มีสัญลักษณ์เป็นลูกศรโค้งลงไปทางด้านซ้าย อยู่เหนือปุ่ม ESC ตรงใต้ขอบจอพอดี สะดวกดีครับ
มี Windows 7 เวอร์ชั่น Starter เป็นรุ่นเล็กสุดของ Windows 7 ติดมากับเครื่องด้วย
ทำคะแนนใน Windows ไปได้ 2.7 ครับ ไม่ได้มากมายอะไร ก็อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่ามันเป็นเน็ตบุ๊ก
ตรวจสอบ CPU ที่ใช้ด้วยโปรแกรม CPU-Z เป็นของ Intel Atom รหัส N550 ที่เป็น 2 Core ความเร็วอยู่ที่ 1.50 GHz
มี L2 Cache อยู่ที่ 512 KB x2 เพราะว่าเป็น 2 Core นั่นเอง
Mainboard จาก Lenovo ชิปเซตก็ NM10 จาก Intel
RAM ที่มากับเครื่องเป็นของ Micron ผู้ผลิต RAM ยี่ห้อที่เป็นที่รู้จักอย่าง Crucial และ Lexar นั่นเอง มีมาให้ 2 GB เหลือเฟือ
การ์ด จอก็ Intel GMA 3150 เหมือนเดิม ในเน็ตบุ๊กเกือบทุกตัวที่มีขายในบ้านเรา ก็เป็นตัวนี้เหมือนๆกันหมด ประสิทธิภาพก็เพียงพอกับการใช้งานทั่วๆไป แต่ยังแรงไม่พอสำหรับการนำไปใช้ดูหนังแบบ Full HD นะ
หน้า จอขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอก็ 1024 x 600 เหมือนเดิมกับเน็ตบุ๊กที่เราได้ทำการทดสอบมา แต่จุดเด่นและแตกต่างคือ หน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive ตอบสนองว่องไว
แสดงหน้าเว็บได้พอดีเป๊ะ ไม่มีปัญหา ตัวหนังสือก็ยังอ่านได้ชัดเจน ขนาดไม่เล็กเกินไป
โปรแกรม Super PI ใช้วิธีการคำนวณค่า PI จากเส้นรอบวง/เส้นผ่านศูนย์กลาง จะได้เป็นค่า 3.14… โดยที่ทศนิยมนั้น เป็นเลขที่ไม่ลงตัวที่มีค่าอนันต์ ดังนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์จึงไม่สามารถหยุดการคำนวณได้ถ้าไม่สั่งให้หยุด โปรแกรม Super PI จะทำการกำหนดเอาไว้ว่า ให้คำนวณที่จุดสิ้นสุดตรงไหน เช่น 1M คือ คำนวณที่ทศนิยม 1 ล้านตำแหน่ง โดยแบ่งเป็นชวง Lopp อย่าง PI 1M ใช้ 19 Loop เท่ากับคำนวณ Loop ละ 52632 ตำแหน่ง ต่อ 1 Loop ยิ่ง CPU มีประสิทธิภาพเท่าไหร่ ยิ่งใช้เวลาคำนวณได้น้อยลง
ทำเวลาไปได้ 1 นาที 54 วินาที ยังคงระดับสำหรับเน็ตบุ๊ก ไม่แตกต่างอะไรมากมายนัก
โปรแกรม Hyper PI ใช้หลักการคำนวณเหมือนกับ Super PI แต่สามารถสั่งให้ทุก Thread ของ CPU คำนวณได้พร้อมกัน
สำหรับ Hyper PI ทำไปได้ 1 นาที 44 วินาที ทำเวลาได้ช้าว่า Atom รหัส N450 อยู่เล็กน้อย เนื่องจากว่า ความเร็วต่อ Core นั้นน้อยกว่า
ความจุของเนื้อที่ฮาร์ดดิสก์ที่มีมาให้ถึง 320 GB ส่วนประสิทธิภาพก็อยู่ในระดับปกติ สำหรับเน็ตบุ๊ก
โปรแกรม PCMark05 ใช้สำหรับการทดสอบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ในหลายๆรูปแบบ เช่น การคำนวณทางฟิสิกก์ การเข้ารหัสไฟล์ภาพยนตร์เพื่อสร้างคะแนนเปรียบเทียบประสิทธิภาพออกมา
ยัง เป็นเหมือนเดิมสำหรับเน็ตบุ๊ก ที่ PCMark05 ไม่สามารวัดคะแนนรวมออกมาได้ แต่คะแนน CPU, RAM และ Hard Disk ก็อยู่ในระดับปกติครับ ไม่มีอะไรแตกต่างจากเน็ตบุ๊กตัวอื่นๆมากมายนัก
โปรแกรม Performance Test เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่สามารถทดสอบประสิทธิภาพเครื่องได้ในหลาย ๆ ส่วนทั้ง CPU, GPU, 2D, 3D, CD/DVD ด้วย
ทำคะแนนได้ 252 ยังคงอยู่ในระดับคะแนนของเน็ตบุ๊กอีกเหมือนกัน
ทำ การทดสอบความร้อนของเครื่อง ด้วยการเปิดโปรแกรมต่างๆเยอะๆ เพื่อทำให้เครื่องเข้าสู่สภาวะโหลดเต็มที่ 100% ทิ้งเอาไว้ แล้วทำการวัดอุณภูมิด้วยโปรแกรม Hardware Monitor
หน้าจอระหว่างการทดสอบ
อุณภูมิก่อนการทดสอบ เฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 37 – 38 องศาเซลเซียส ทำออกมาได้ดีมากครับ
หลังการทดสอบอุณภูมิขึ้นมาอยู่ที่ราวๆ 44 – 45 องศาเซลเซียส ก็ยังทำออกมาได้ดีมากอีกเช่นกัน ขึ้นมาจากปกติแค่ไม่เท่าไหร่เอง
สำหรับแบตเตอรี่ จะเป็นของยี่ห้อ Sanyo แบบ 8-cell ความจุที่โปรแกรมตรวจได้อยู่ที่ 6567 mAh
ระยะการใช้งานทั่วไปด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ วัดตั้งแต่ 100% ถึง 10% อยู่ได้ประมาณ 6 ชั่วโมง กับอีก 17 นาที
ส่วนการเปิดให้เครื่องทำการโหลดเต็มที่ทิ้งไว้ สามารถใช้งานได้ราวๆเกือบ 5 ชั่วโมงครับ
Lenovo IdeaPad S10-3t ตัว นี้ถือว่าเป็นอะไรที่แตกต่างจากตลาด เรียกว่าเป็นของใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มลงตลาดบ้านเรานี้เอง ด้วยการจับจอสัมผัสยัดรวมลงมากับตัวเครื่องเน็ตบุ๊กที่คุ้นเคย ทำให้กลายเป็นอุปกรณ์อีกประเภทที่ดูน่าสนใจ และเมื่อมีจอสัมผัสเพิ่มเข้ามาแบบนี้ แน่นอนว่ามันก็ต้องมีลูกเล่นอะไรใหม่ๆเพิ่มเข้ามาด้วยอีกเช่นกัน เจ้าจอสัมผัสนี้สามารถช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดี สำหรับบางลักษณะการใช้งาน เพราะด้วยตัว Windows เอง ที่ไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับการสั่งงานแบบสัมผัสด้วยหน้าจอเล็กๆแบบนี้ โดยเฉพาะการสั่งงานที่เป็นจุดเล็กๆบนหน้าจอ อย่างปุ่มปิดหน้าต่าง หรือปุ่มย่อหน้าต่าง นิ้วเราจะใหญ่กว่าขนาดของปุ่มอยู่เล็กน้อย บ่อยครั้งที่จิ้มพลาด แต่หากเป็นการจิ้มจุดที่ใหญ่ หรือพวกปุ่มใหญ่ๆจะใช้งานได้ดีมาก ไม่ต้องมานั่งลากนิ้วบนทัชแพดให้เสียเวลา จิ้มเอาจากจอได้เลย
และ หากเป็นการเปิดดูพวกไฟล์มีเดียต่างๆ อย่างรูปภาพ หรือวิดีโอแล้วล่ะก็ Lenovo ได้ใส่โปรแกรมเฉพาะมาให้ด้วย ซึ่งรองรับการใช้งานด้วยนิ้วได้อย่างดี และยังเป็น multitouch ด้วย แต่เฉพาะกับบางโปรแกรม คงต้องบอกว่าเป็นลูกเล่นเสริมสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเน็ตบุ๊กอยู่แล้ว เพราะราคาค่าลูกเล่นที่ได้เพิ่มมานี้ ก็แพงกว่าเน็ตบุ๊กปกติอยู่พอสมควร หรือสำหรับคนที่กำลังมองหาเน็ตบุ๊กไว้พกพา แต่ต้องการคีย์บอร์ดที่ใหญ่ พิมพ์สะดวก S10-3t ตัวนี้ตอบโจทย์นั้นได้เลยครับ
ข้อดี
- จอสามารถหมุนและพลิกให้หงายออกมาด้านนอกได้
- จอระบบสัมผัสแบบ Capacitive
- คีย์บอร์ดขนาดใหญ่ พิมพ์สะดวก
- ลำโพงเสียงไม่ดังเท่าไหร่
- ปุ่ม Fn กับ Ctrl บริเวณซ้ายล่าง สลับตำแหน่งกัน ไม่เหมือนคีย์บอร์ดทั่วๆไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น