กิจกรรม Click กระจาย ยิ่ง Click มาก ยิ่งมีสิทธิ์ลุ้น มูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท

วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Review Asus G51J


clip_image001[4]
image
สวัสดีครับชาว Notebookspec กลับมาพบกันอีกครั้ง พร้อมกับโน้ตบุ๊กแรง ๆ อีกตัวสำหรับคอเกมที่เป็นของยี่ห้อคุ้นเคยกัน นั่นก็คือ Asus เองครับ ซึ่งมาพร้อมกับการ์ดแสดงผลค่ายเขียว NVIDIA Geforce GTX260M ที่หอบหิ้วหน่วยความจำขนาด 1GB GDDR3 มาด้วย ทำให้สามารถ ลุยเกมแบบ All High ได้อย่างไม่สะดุด แถมด้วยหน่วยประมวลผลระดับ High End ที่มีแกนประมวลผล 4 แกนอย่าง Intel Core i7-720QM ความเร็ว 1.6GHz สามารถเพิ่มความเร็วได้ถึง 2.8GHz เลยทีเดียว มีหน่วยความจำสำรองขนาด 4GB DDR3 และฮาร์ดดิสก์ 320GB ความเร็วรอบ 7200RPMS ถึงสองตัวเลย แค่นั้นยังไม่พอ G51J ตัวนี้มาพร้อมกับลูกเล่นที่ทันสมัย นั่นก็คือ เทคโนโลยี NVIDIA 3D VISION Stereo Scope ทำให้เล่นเกมหรือดูหนังได้ถึงเนื้อถึงตัวราวกับจะออกมาชนหน้าเรากันเลย เป็นไงกันบ้างครับ น่าสนใจกันขนาดนี้ ไปดูตัวเครื่องกันดีกว่าครับ
clip_image003[4]
รูปลักษณ์ภายนอก
clip_image004[4]
เริ่มด้วยฝาหลังที่ออกแบบมาผิวเรียบ รอยนิ้วมือยังสามารถปรากฏให้เห็นบนฝาได้บ้าง บริเวณขอบฝามนตัดกับลวดลายบนฝาที่ดุดันสีน้ำเงินครามประดับด้วยรอยกรงเล็บสี เงิน ที่พร้อมจะฉีกกระชากผู้ใช้ให้ขาดกระจุยเมื่อได้สัมผัสกับ Asus G51J ตัวแรงนี้ บนฝาจะมีโลโก้ Asus นูนขึ้นมา ซึ่งฝังตัวอักษรไว้ข้างใน ทั้งยังมีไฟ LED พาดผ่านตรงบริเวณกลางฝาค่อนไปด้านล่าง และขอบฝาทั้งด้านซ้ายและขวา
clip_image005[4]
clip_image006[4]
clip_image007[4]
แบตเตอรี่สามารถถอดแบบสไลด์ออกมาทางข้างหลังได้เลย ที่โลโก้ของ Asus จะมีตัวอักษรฝังอยู่ด้านในว่า Republic of Gamers สร้างมาสำหรับคอเกมจริง ๆ ส่วนบริเวณผิวสีดำถัดลงมากจากตัวอักษรนั้นจะเป็น Totem Pattern (ลายหกเหลี่ยม) เพื่อเสริมทั้งความสวยงามและความกระชับมือ
clip_image008[4]
บานพับสไตล์ Asus ที่ดูสวยงาม แต่ยังไม่ค่อยแน่ใจเรื่องความทนทานหากเปิด/ปิดบ่อย ๆ ว่าจะเหมือนรุ่นล่าง ๆ ที่เกิดปัญหาบานพับแตกหรือไม่
น้ำหนักของเครื่อง
clip_image009[4]
clip_image010[4]
น้ำหนักของ G51J ตัวนี้อยู่ที่ 3.504 กิโลกรัม หรือราว ๆ 3.5 กิโลกรัม เป็นน้ำหนักที่ยังไม่รวมแบตเตอรี่ และน้ำหนัก 4.055 กิโลกรัม หรือราว ๆ 4 กิโลกรัม เป็นน้ำหนักที่รวมแบตเตอรี่แล้ว ถือว่าหนักเอาการทีเดียว แต่ถ้าเพื่อความแรงความเท่แล้วถึงจะหนักแค่ไหนก็ยอม

clip_image011[4]
ด้านล่างของเครื่อง
clip_image012[4]
clip_image013[4]
clip_image014[4]
หากพลิกใต้เครื่องจะเห็นสิ่งแรก นั่นก็คือ รูอากาศขนาดยักษ์ บางครั้งก็อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นดอกซับของลำโพงได้เหมือนกัน มีสติกเกอร์ Windows 7 Home Premium 64-bit แท้มาให้อุ่นใจ แต่ต้องป้ายยาหม่องกันสักหน่อยไม่อย่างนั้นจะมีคนช่วยเอาไปแบ่งปันกันใช้
clip_image015[4]
clip_image016[4]
เปิดฝาออกดูภายในเครื่องกัน จะเห็นได้ว่าออกแบบมาให้ดูแลรักษาได้ง่าย ไม่ต้องถึงมือช่างก็สามารถทำความสะอาดได้เอง ทั้งยังวาง Layout มาให้อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวกอีกด้วย
CPU
clip_image017[4]
หน่วยประมวลผล Series ล่าสุด Intel Core i7-720M อาจไม่ใช่เป็นตัวระดับท็อป แต่ก็สามารถทำงานหนัก ๆ หลายงานพร้อมกันได้อย่างสบาย
VGA
clip_image018[4]
การ์ดจอ NVIDIA Geforce GTX260M VRAM 1GB รับประกันเรื่องความแรง ตัวการ์ดเป็น slot MXM type 3.0 สามารถถอดเปลี่ยนได้
RAM
clip_image019[4]
หน่วยความจำสำรองหรือแรม 2GB DDR3 ที่มี Bus 1033 MHz สองแถว ให้มีใช้งานได้อย่างเหลือเฟือไม่ต้องกังวลเรื่องแรมไม่พอ
Harddisk
clip_image020[4]
clip_image021[4]
ฮาร์ดดิสก์ลูกละ 320GB 7200RPMS สองลูกของ Seagate ที่ใส่มาด้วย
Fan
clip_image022[4]
พัดลมตัวใหญ่ที่จะรับมือกับความร้อนในปริมาณมากได้สบาย ๆ


clip_image023[4]
Keyboard
clip_image024[4]
คีย์บอร์ดเป็นแบบ Chiclets Style เวลากดจะยวบลงไป อาจไม่ถูกใจคนที่เคยใช้ Keyboard แบบเก่า ใต้ปุ่มจะมีช่องให้ไฟส่องขึ้นมา สามารถปรับระดับความสว่างได้ 4 ระดับโดยกด Fn + F3 (ลดแสง) และ Fn + F4 (เพิ่มแสง) แม้จะเล่นในที่มืดก็ไม่เป็นปัญหา
clip_image025[4]
คีย์บอร์ดออกแบบ Layout มาได้ค่อนข้างดี ไม่มีปุ่มแปลก ๆ เช่น ปุ่ม “\” ข้างปุ่ม Spacebar หรือ ปุ่ม Fn สลับกับ CTRL เป็นต้น
clip_image026[4]
แสงไฟใต้ปุ่มบางครั้งก็ รำคาญเหมือนกัน เพราะบางองศาที่ผู้ใช้นั่งจะโดนแสงส่องตาและจะหาปุ่มลำบาก เท่าที่เจอมาก็ราว ๆ มุม 30 – 45 องศา
clip_image027[4]
ทางด้าน Num Pad ออกแบบมาค่อนข้างดี ปุ่ม Home, Page Up, Page Down, End อยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น ทั้งนี้ยังอำนวยความสะดวกสำหรับเหล่าเกมเมอร์ที่ชอบฟังเพลงไปเล่นเกมไปโดยมี ปุ่ม Play, Pause, Previous, Next อยู่บนปุ่มลูกศรอีกด้วย (Fn + ลูกศร) ทำให้ไม่ต้องกดสลับหน้าจอออกมาเปลี่ยนเพลง ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกมค้างได้
Sensor & Function
clip_image028[4]
เหนือคีย์บอร์ดขึ้นไปจะเป็น Hotkey มีความสะดวกในการเรียกใช้งาน จะเห็นไฟสีขาวนวลแสดงสถานะ เมื่อเอานิ้วไปสัมผัสตัวเซ็นเซอร์จะกะพริบ บ่งบอกถึงการเรียกใช้งาน ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- ไฟบอกสถานะ Harddisk / Caps Lock / Num Lock
- NVIDIA 3D VISION เปิด/ปิด ได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าใน NVIDIA CONTROL PANEL
- POWER4GEAR ปรับโหมดได้ 4 แบบ คือ High Performance, Entertainment, Quite Office, Battery Saving
- Touchpad ล็อก/ปลดล็อก แป้นเมาส์สัมผัส
- ปุ่ม Asus Express Gate เข้าสู่โหมดสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการทำงานหนัก ๆ เช่น ท่องเว็บ ฟังเพลง พร้อมคุย msn เป็นต้น
Touchpad
clip_image029[4]
Touchpad ที่ออกแบบมาอย่างดี ทำให้ไม่รู้สึกหนืดที่ปลายนิ้วเมื่อถูไปมา Size ของ Scroll Zone มีขนาดพอดี ทำให้ ไม่ต้องเอียงนิ้วเมื่อ Scroll และด้วย Body ที่ออกแบบมาดี แม้ว่าเครื่องจะทำงานหนักแค่ไหน ทำให้ไม่รู้สึกถึงความร้อนสะสม ส่งผลให้ Touchpad มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น แต่ในส่วนปุ่มคลิกซ้าย/คลิกขวานั้นเป็นเนื้อเดียวกัน เวลากดลงไปอาจรู้สึกถึงความแข็ง ทำให้บางครั้งกดไม่ติด หากทำปุ่มมาแยกกันน่าจะทำให้ใช้งานได้ดีกว่านี้
clip_image030[4]
Webcam
clip_image031[4]
clip_image032[4]
Asus ให้เว็บแคมมาขนาด 2 ล้านพิกเซล ทำให้เก็บรายละเอียดได้ชัดเจน ไมค์ของกล้องเว็บแคมสามารถบันทึกเสียงได้ชัดเจน ข้าง ๆ เป็นยางกันกระแทกบริเวณเว็บแคม ทำมาใหญ่ดีแต่ตื้นไปหน่อย
clip_image033[4]
ยางกันกระแทกบริเวณขอบจอทั้งซ้ายและขวาก็ยังเล็กและตื้นเหมือนกัน ควรระวังเวลาพับหน้าจอลงเป็นพิเศษ
Speaker
clip_image034[4]
clip_image035[4]
clip_image036[4]
ลำโพงเป็นของยี่ห้อ Altec Lansing คุณภาพคับแก้ว มาพร้อมด้วยระบบเสียง EAX Advance HD 4.0 แต่เสียงเบาไปหน่อยในสไตล์ Asus ซึ่งถ้ามองในแง่ดีอาจจะทำมาเพื่อกันไม่ให้ลำโพงแตกก็เป็นได้ ถ้าใครชอบลูบ ๆ คลำ ๆ ก็ระวังโดนไฟดูดบริเวณลำโพงสักหน่อย อาจเห็นเศษฝุ่นติดอยู่เต็มไปหมดเนื่องจากไฟฟ้าสถิตนั่นเอง

 
clip_image060[4]
clip_image061[4]
clip_image062[4]
Operating System
clip_image063[4]
Windows 7 64-bit OEM ที่มาพร้อมกับเครื่อง
Windows Rating
clip_image064[4]
จะเห็นได้ว่าคะแนนที่สูงที่สุด คือ แรม ซึ่ง CPU อาจมีส่วนช่วยทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ส่วนคะแนนรองลงมา คือ CPU ที่ได้ถึง 7.1 สมกับเป็น Intel Core i7 จริง ๆ ส่วน VGA ที่อยู่ในคลาสต้น ๆ ก็ได้คะแนนไล่เลี่ยกับ CPU นับว่าสมดุลกันทั้ง CPU, RAM และ VGA เลย ส่วนคะแนนต่ำสุด คือ ฮาร์ดดิสก์ ซึ่งในการใช้งานจริงนั้นแทบจะไม่เป็นปัญหา
clip_image066[4]
เป็นโปรแกรมที่ใช้ตรวจรายละเอียดของ Chipset ทั้ง CPU, Cache, RAM
CPU & Cache
clip_image067[4]
clip_image068[4]
CPU ของ G51J ตัวนี้จะเป็น Intel Core i7-720QM เป็นรุ่นต่ำสุดที่ใช้ 4 core / 8 thread มี Turbo Boost สามารถวิ่งจาก 1.6GHz ไปถึง 2.8GHz เลยทีเดียว มี L2 cache 256KB และ L3 cache ถึง 6MB
Chipset
clip_image069[4]
Chipset จะเป็น PM55
RAM
clip_image070[4]
clip_image071[4]
หน่วยความจำสำรองเป็นของ Hyundai Electronics ขนาด 2GB DDR3 bus 1066 สองแถวรวมเป็น 4GB หากใครอยากได้เพิ่มก็สามารถใส่ได้สูงสุด 8GB แต่จะต้องใส่ทีละ 4GB เพราะมีช่องแค่ 2 ช่องเท่านั้น
clip_image072[4]
โปรแกรมใช้ตรวจสอบข้อมูลของการ์ดประมวลผล
clip_image073[4]
การ์ดแสดงผลเป็น NVIDIA Geforce GTX 260M หน่วยความจำการ์ดเป็น GDDR3 ขนาด 1GB ซึ่งจัดอยู่ในการ์ดจอระดับสูง และเป็นพระเอกตัวสำคัญที่จะทำให้คุณเล่นเกมหนัก ๆ ได้อย่างลื่นไหล ทั้งนี้ยังรองรับระบบ PhysicX ที่ต้องใช้พลังของการ์ดแสดงผลสูง ๆ ได้สบาย ๆ
clip_image074[4]
clip_image075[4]
ความละเอียดของจอที่ให้มาได้สูงสุด 1366×768 pixel ซึ่งเป็นผลดีต่อการเล่นเกมเ พราะการแสดงผลความละเอียดหน้าจอต่ำ ๆ ทำให้ประสิทธิภาพการแสดงผลไม่หนักจนเกินไป แต่จะดีมากถ้าจอ 15 นิ้วนี้ได้ความละเอียดที่สูงกว่านี้อีกสักหน่อย เพื่อที่จะได้ดูหนัง Blu-ray ที่มีความละเอียดสูง ๆ ได้อย่างจุใจ

 
clip_image076[4]
clip_image077[4]
โปรแกรม Super PI ใช้วิธีการคำนวณค่า PI จากเส้นรอบวง/เส้นผ่านศูนย์กลาง จะได้เป็นค่า 3.14… โดยที่ทศนิยมนั้นเป็นเลขที่ไม่ลงตัวที่มีค่าอนันต์ ดังนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์จึงไม่สามารถหยุดการคำนวณได้ถ้าไม่สั่งให้หยุด โปรแกรม Super PI จะทำการกำหนดเอาไว้ว่าให้คำนวณที่จุดสิ้นสุดตรงไหน เช่น 1M คือ คำนวณที่ทศนิยม 1 ล้านตำแหน่ง โดยแบ่งเป็นช่วง Loop อย่าง PI 1M ใช้ 19 Loop เท่ากับคำนวณ Loop ละ 52632 ตำแหน่ง ต่อ 1 Loop ยิ่งซีพียูมีประสิทธิภาพเท่าไร ยิ่งใช้เวลาคำนวณได้น้อยลง
clip_image078[4]
สำหรับค่า SuperPI ได้ 15 วินาทีกว่า ๆ ก็เป็นเวลาปกติของ i7-720QM
clip_image080[4]
โปรแกรม Hyper PI ใช้หลักการคำนวณเหมือนกับ Super PI แต่สามารถสั่งให้ทุก Thread ของ CPU คำนวณได้พร้อมกัน
clip_image081[4]
clip_image082[4]
ผลของโปรแกรม HyperPI ใช้เวลาการคำนวณไปเกือบ 36 วินาที ถือเป็นค่าปกติของ i7 ตัวนี้
clip_image083[4]
โปรแกรม PCMark05 ใช้สำหรับการทดสอบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ในหลาย ๆ รูปแบบ เช่น การคำนวณทางฟิสิกส์ การเข้ารหัสไฟล์ภาพยนตร์ เพื่อสร้างคะแนนเปรียบเทียบประสิทธิภาพออกมา
clip_image084[4]
โปรแกรมใช้ทดสอบการทำงานของคอมพิวเตอร์หลายรูปแบบ เช่น เข้ารหัสไฟล์ภาพยนตร์ คะแนนที่ได้ออกมาก็ถือว่าน่าพอใจ
clip_image085[4]
โปรแกรมใช้ทดสอบการ render 3D ต่าง ๆ ด้วย CPU / GPU ทั้งยังทดสอบ Shader Model 2.0, 3.0 ของการ์ดแสดงผลอีกด้วย
ทดสอบที่ความละเอียด 1280×720 x0AA x16AF
clip_image086[4]
ทดสอบที่ความละเอียด 1280×720 x4AA x16AF
clip_image087[4]
ทดสอบที่ความละเอียด 1280×720 x8AA x16AF
clip_image088[4]
ตามที่คาดกันเอาไว้ คะแนนขึ้นหลักหมื่นในโน้ตบุ๊ก ถือว่าค่อนข้างแรงพอสมควร
ทดสอบที่ความละเอียด 1366×768 x0AA x16AF
clip_image089[4]
ทดสอบที่ความละเอียด 1366×768 x4AA x16AF
clip_image090[4]
ทดสอบที่ความละเอียด 1366×768 x8AA x16AF
clip_image091[4]
เมื่อปรับหน้าจอให้แสดงผลสูงสุด คะแนนก็จะลดลงกว่าเดิมเล็กน้อย
CineBench R11.5
โปรแกรม CINEBENCH R 11.5 ใช้ทดสอบการประมวลผลงานสามมิติแบบมืออาชีพ ซึ่งต้องใช้งานผ่าน OpenGL โปรแกรมทดสอบทั้งการเรนเดอร์ด้วย CPU และ GPU โดยมีพื้นฐานมาจากโปรแกรม Maxon CINEMA 4D
clip_image092[4]
ผลที่ได้ออกมาอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างสูง แต่ก็ยังไม่สามารถสู้การ์ดจอเฉพาะทางอย่าง NVIDIA Quadro หรือ ATI FireGL ได้ ส่วนคะแนน CPU น้อยไปปกติ เพราะรัน multi-core เพียง 1.6GHz
FluidMark PhysX
โปรแกรมสำหรับทดสอบการทำงานของ PhysicX ว่ามีความสามารถแค่ไหน ถ้าหากไปเจอเกมใหม่ ๆ สมัยนี้ที่ต้องใช้งาน PhysX
Setting
clip_image093[4]
ทดสอบที่ความละเอียด 1280×720 x0AA 1emitter
clip_image094[4]
ทดสอบที่ความละเอียด 1280×720 x0AA 7emitters
clip_image095[4]

 
clip_image097[4]
เป็นโปรแกรมอีกตัวหนึ่งที่ทดสอบการทำงานต่าง ๆ ของเครื่อง เช่น CPU , 2D Graphic, 3D Graphic, memory หรือแม้กระทั่ง CD/DVD
clip_image098[4]
clip_image100[4]
ผลทดสอบออกมาได้คะแนนที่อยู่ในเกณฑ์ดีเกือบ ๆ 1,200 คะแนน

clip_image101[4]
โปรแกรมใช้ทดสอบการทำงานต่าง ๆ ของเครื่อง โดยนำค่าที่ได้นั้นมาเปรียบเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ทำให้รู้ว่าเครื่องอยู่ในระดับไหน โดยจะทดสอบ 3 แบบ ดังนี้
Processor Arithmetic
clip_image102[4]
ทดสอบการประมวลผลของ CPU ซึ่งจะโดนเอาไปเทียบกับรุ่นสูงของ PC และเป็นรองอยู่เท่าตัวเลย
Memory Bandwidth
ทดสอบการส่งถ่ายข้อมูลของแรม จะเห็นได้ว่าเป็นเพราะ i7 จริง ๆ ที่ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของแรม
File Systems
clip_image104[4]
ทดสอบการส่งถ่ายข้อมูลและการเข้าถึงไฟล์ในฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเอาไปเปรียบเทียบกับ SSD ทำให้เห็นว่ายังห่างชั้นกันหลายขุมเลย
Game benchmark : Street Fighter IV
clip_image106[4]
ทดสอบที่ความละเอียด 1280×720 x0AA x16AF
clip_image108[4]
ทดสอบที่ความละเอียด 1280×720 x8AA x16AF
clip_image110[4]
ทดสอบที่ความละเอียด 1366×768 x0AA x16AF
clip_image112[4]
ทดสอบที่ความละเอียด 1366×768 x0AA x16AF
clip_image114[4]
ผลการทดสอบด้วยเกม Street Fighter IV แม้จะเปิดความละเอียดสูงสุดแถมลบเหลี่ยม x8 เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามสุด ๆ แล้วก็ยังสามารถคงระดับอยู่ที่ A ได้
Game Benchmark : Devil May Cry 4
clip_image116[4]
ทดสอบที่ความละเอียด 1280×720 x8MSAA
clip_image118[4]
แม้จะเปิด Effect แบบ Super High ก็ยังคงได้ระดับ S ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียอรรถรสในการเล่นเกมหนัก ๆ
Game Benchmark : Final Fantasy 14
clip_image119[4]
เนื่องจากจอไม่ใช่ Full HD ดังนั้นจึงได้แต่เปิดแบบ Low ไปก่อน
clip_image121[4]
เนื่องจากเป็นเกมที่สนับสนุน CPU หลาย Core ทำให้เมื่อทดสอบ CPU จะวิ่งแค่ 1.6GHz ทำให้ได้คะแนนออกมาราว ๆ 1909

clip_image122[4]
โปรแกรมใช้ทดสอบการเขียน/อ่านและการเข้าถึงข้อมูลของฮาร์ดดิสก์แต่ละตัวได้
clip_image123[4]
ฮาร์ดดิสก์ของ Asus G51J ตัวนี้เป็นของ Seagate ขนาด 320GB ความเร็วรอบ 7200RPMS สองลูก ความเร็วเฉลี่ทำได้ 73.3MB/s ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ และค่าการอ่านจะไม่ค่อยแกว่งมาก ส่วนค่าเวลาการเข้าถึงข้อมูลยิ่งน้อยก็จะยิ่งดี ซึ่ง G51J ตัวนี้ได้ 17.0ms ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ถ้าหาก defragment สักหน่อยอาจทำให้เวลาการเข้าถึงข้อมูลดียิ่งกว่านี้
clip_image124[4]
โปรแกรมที่ใช้ตรวจสอบข้อมูลและความเร็วในการอ่านเขียนของเครื่องอ่านแผ่น CD/DVD/Blu-ray
clip_image125[4]
จากผลการตรวจสอบข้อมูล G51J ตัวนี้ติดตั้ง Drive ที่สามารถอ่าน Blu-ray ได้มาด้วย แต่ถ้าสามารถเขียน Blu-ray ได้ด้วยราคาคงจะสูงกว่านี้อีก
clip_image126[4]
โปรแกรมที่ใช้ตรวจสอบแบตเตอรี่ว่ามีความจุเท่าใด สามารถใช้งานได้นานแค่ไหน แถมยังวัดออกมาเป็นกราฟได้อีกด้วย
ข้อมูลของแบตเตอรี่
clip_image127[4]
ข้อมูลแบตเตอรี่ของ G51J ตัวนี้ความจุ 51260mWh คิดว่าน้อยไปหน่อยสำหรับโน้ตบุ๊กระดับนี้
ทดสอบระยะเวลาใช้งาน : Entertainment Mode
clip_image128[4]
อยู่ได้เพียง 1 ชั่วโมง 30 นาที ถือว่าน้อยไปหน่อย
ทดสอบระยะเวลาใช้งาน : Battery Saving Mode
clip_image129[4]
โหมดประหยัดพลังงานทำให้ยืดระยะเวลาการใช้งานไปได้อีกนิดราว ๆ 1 ชั่วโมง 45 นาที
ทดสอบระยะเวลาใช้งาน : High Performance Mode (Full Load)
clip_image130[4]
แทบจะถอด Adapter เพราะเล่นเกมอะไรนานไม่ได้เลย เนื่องจากเป็น i7 และการ์ดจอที่กินไฟพอสมควร
ระยะเวลาชาร์จแบตเตอรี่
clip_image131[4]
การชาร์จแบตเตอรี่ทำทดสอบเมื่อเหลือ 40% จนเต็มจะใช้เวลาอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 15 นาที
clip_image132[4]
โปรแกรมใช้ตรวจสอบความเสถียรของตัวรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สาย ซึ่งจะแสดงผลเป็นกราฟได้เลย
clip_image133[4]
ตัวรับสัญญาณ Intel WiFi Link 1000 BGN ยังคงรักษาความเสถียรไว้ได้ดี ทำให้ไม่ต้องกังวลเวลาเล่นเกมออนไลน์ว่าจะรับสัญญาณได้ไม่ดี
clip_image135[4]
ก่อนทำการทดสอบ
clip_image136[4]
จะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงกว่าปกติไปหน่อย อาจเป็นเพราะซิลิโคนที่ติดมาให้ด้วยยังไม่ดีพอ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะสามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายอยู่แล้ว
ระหว่างทำการทดสอบ
clip_image137[4]
เปิด CPU Burn-in 8 ตัวตามจำนวน Thread พร้อมทั้ง ATITool ให้ Render 3 มิติ
หลังทำการทดสอบ
clip_image138[4]
จะเห็นได้ว่าอุณหภูมิ GPU เพิ่มขึ้นไปเกือบ 10 องศาเท่านั้น แต่ยังไม่รู้สึกถึงความร้อนจากที่วางมือเลย ส่วนความร้อนจาก CPU ก็จะอยู่ราว ๆ นี้เพราะเป็น 4 core ทำให้มีความร้อนออกมามากว่า 2 core อยู่แล้ว

 
clip_image140[4]
clip_image141[4]
Asus G51J-IX110V จัดเป็นโน้ตบุ๊กระดับสูงที่เหล่าเกมเมอร์ต้องมีเป็นตัวเลือกในใจแน่นอน ดังนั้น ถ้าคุณเป็นแฟน Asus และกำลังหาโน้ตบุ๊กเล่นเกมคู่ใจอยู่ G51JW ตัวนี้เป็นอีกทางเลือกที่คุณต้องเป็นเจ้าของให้ได้




clip_image144[4]
clip_image145[6]
โดย Asus G51J-IX110V สามารถผ่านการทดสอบมาได้ตามระดับคะแนนดังนี้เลย
  • · 4/5 –Design
  • · 4/5 –Performance
  • · 4/5 –Gaming
  • · 2/5 –Mobility
  • · 4/5 –Durability
  • · 3/5 –Value
รวม 21 คะแนน
เราขอมอบรางวัล Gold ให้แก่ Asus G51J-IX110V
03.Gold Award

ที่มา :  http://www.notebookspec.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น