กิจกรรม Click กระจาย ยิ่ง Click มาก ยิ่งมีสิทธิ์ลุ้น มูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท

วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เอชพีปฏิวัติทุกมิติคอนซูเมอร์โน้ตบุ๊ค รุกตลาดไตรมาสสี่ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ดีไซน์โฉบเฉี่ยวโดนใจ

    เผยโฉม HP G Series ใหม่ พร้อมเปิดตัวพอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์โน้ตบุ๊ค HP Mini 210 และ HP ENVY รุ่นใหม่ล่าสุด ตอบโจทย์ ตรงใจ ทุกไลฟ์สไตล์
     เอชพี ประเทศไทย วันนี้ ประกาศเดินหน้า รุกตลาดคอนซูเมอร์โน้ตบุ๊ค ด้วยกลยุทธ์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่พร้อมปฏิวัติ ทุกนิยามแห่งการใช้งานโน้ตบุ๊คที่ผสานเทคโนโลยีล้ำหน้าเข้ากับงานดีไซน์ล้ำ สมัย ภายใต้แนวความคิดเพื่อประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานไร้ขีดจำกัด
     
พร้อมกันนี้ เอชพียังได้เปิดตัวพอร์ทโฟลิโอสำหรับคอนซูเมอร์โน้ตบุ๊คใหม่ล่าสุด ได้แก่ HP G Series Notebook PC โน้ตบุ๊ค ซับแบรนด์ใหม่ล่าสุดจากเอชพี ชูจุดเด่นความคุ้มค่าในการใช้งาน จากเทคโนโลยีหน่วยประมวลผลใหม่ล่าสุด และรูปลักษณ์โดดเด่นโดนใจ รวมไปถึงบริการหลังการขายรูปแบบใหม่ HP 30 Minutes Express Service เจาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษาโดยเฉพาะ พร้อมด้วย HP ENVY14 Beats™ Edition Notebook PC สุดยอด พลังเสียงโดนใจมิวสิคเลิฟเวอร์ตัวจริง และ HP Mini 210 รุ่นใหม่ล่าสุด สีสันสุดสดใส

– คุ้มค่าเหนือใคร ด้วยประสิทธิภาพการทำงานและสไตล์ล้ำสมัย HP G Series Notebook PC โน้ตบุ๊คเครื่องแรกสำหรับคนรุ่นใหม่ นักเรียนและนักศึกษา เพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
– ต่อยอดความสำเร็จจากปรัชญาในการออกแบบเพื่อเน้นย้ำอารมณ์ความรู้สึกและ โสตประสาท เอชพี เดินหน้าส่งมอบที่สุดประสบการณ์ทางเสียงเพลง ผ่านโน้ตบุ๊คระดับ ไฮเอนด์ HP ENVY14 Beats™ Edition Notebook PC โน้ตบุ๊คเครื่องแรกของคนรักดนตรี เพื่อความสนุกไปกับทุกจังหวะของเสียงเพลง
– โน้ตบุ๊ค HP Mini 210 ใหม่ เพื่อนที่รู้ใจของคนรุ่นใหม่ ไลฟ์สไตล์ไม่เคยหยุดนิ่ง ตอบโจทย์ตรงใจด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานมากมายในรูปลักษณ์กะทัดรัด ภายใต้ 4 สีสันสะดุดตา สุดอินเทรนด์


      นายประเสริฐ จรูญไพศาล ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเพอร์ซันแนลซิสเต็มส์ บริษัท 
ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ด้วยเล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีทันสมัยและงานดีไซน์ที่ตรงใจผู้บริโภค เอชพีเน้นย้ำในการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์เพื่อประสิทธิผลและ ความบันเทิงที่เหนือกว่าผ่านพอร์ทโฟลิโอของโน้ตบุ๊ค รวมไปถึงแอคเซสเซอรี่ต่าง ๆ จากเอชพี ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และความงามจากรูปลักษณ์ภายนอก ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของลูกค้าเอชพีได้อย่างตรงใจ”

HP G Series Notebook PC
     ผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ค HP G Series Notebook PC เป็นชุดผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์โน้ตบุ๊ค พร้อมเปิดประตูสู่ประสบการณ์เริ่มต้นของการเดินทางของผู้ใช้งานโน้ตบุ๊คแบ รนด์เอชพี นอกจากนี้ HP G Series Notebook PC ยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการคอมพิวเตอร์อันทรงประสิทธิภาพ สำหรับใช้ทำงานประจำวันต่าง ๆ เพื่อก้าวแรก สู่ความสำเร็จ
โฉบเฉี่ยวด้วยความบางไม่ถึง 1.24 นิ้ว และน้ำหนักเริ่มต้นเพียง 2.2 กิโลกรัม HP G Series Notebook PC มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างครบครัน เพื่อประสบการณ์การเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตและด้านมัลติมีเดียได้อย่าง ราบรื่นไร้ปัญหากวนใจ

โน้ตบุ๊ค HP G42 มาพร้อมประสิทธิภาพเหนือระดับ ด้วยเทคโนโลยีหน่วยประมวลผลล่าสุด Intel® CoreTM i3 และ CoreTM i5 Processor รวมถึงแบตเตอรี่ครบวงจรแบบ 6 เซลล์ ที่รองรับการใช้งานนอกสถานที่ได้สูงสุด
ผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊คตระกูล HP G Series Notebook PC โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีพื้นผิว HP Imprint ลวดลายใหม่สีน้ำตาลบิสก็อตตี้ และคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐาน โดยมาพร้อมกับ ฟลัชทัชแพดที่ออกแบบมา  เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบายและเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้จอแสดงผล HP BrightView LED Display แบบไฮเดฟฟินิชั่น ขนาด 14 นิ้ว เพื่อการรับชมมัลติมีเดียคอนเท้นท์ได้อย่างเพลิดเพลิน
นอกจากนี้ โน้ตบุ๊ค HP G Series ใหม่ ยังมาพร้อมกับสิทธิพิเศษใหม่จาก “HP 30 Minutes Express Service” 

        เฉพาะลูกค้าที่ซื้อโน้ตบุ๊ค HP G Series ใหม่ รวมถึง โน้ตบุ๊คในรุ่นที่ร่วมรายการ สำหรับให้บริการลูกค้าเพื่อให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด อันเป็นอีกหนึ่งแผนการพัฒนารูปแบบการให้บริการแก่ลูกค้าโดยเสมอมา ซึ่งบริการใหม่ “เอชพีบริการซ่อมด่วนทันใจ รวดเร็วฉับไวใน 30 นาที” มีจุดมุ่งหมายเพื่อมอบบริการที่รวดเร็วทันใจ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงใจมากยิ่งขึ้น

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เอชพีไม่เคยหยุดยั้งในการส่งมอบผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมประสิทธิภาพ การทำงาน ภายใต้รูปลักษณ์สวยเด่นสะดุดตา ทว่า การให้บริการหลังการขายที่มีคุณภาพ ยังถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ น่าประทับใจให้กับลูกค้าของเอชพี ซึ่งในระยะเริ่มต้นนี้ เราพร้อมแล้วที่จะให้บริการ HP 30 Minutes Express Service ณ HP Service Center ทั้ง 5 สาขาทั่วประเทศ และจะขยายผลไปยังศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองจากเอชพี หรือ HP Authorized Service Centre และจุดดรอปออฟ จำนวนกว่า 100 จุดในเฟสต่อ ๆ ไป ตอกย้ำแนวคิดที่ว่า The Computer is Personal Again” นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติม


      HP ENVY Beats Edition HP ENVY14 BeatsTM Edition รุ่นสเปเชี่ยลอิดิชั่นใหม่ มาพร้อมประสิทธิภาพการประมวลผลทรงพลัง พร้อมด้วยเทคโนโลยีออดิโอล้ำสมัย เต็มอิ่มกับทุกประสบการณ์ความสุข ทุกจังหวะดนตรี
เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์แห่งเสียงเพลง ผ่านเทคโนโลยี BeatsTM Audio คุณภาพเสียงระดับสูง ที่พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง HP และ BeatsTM by Dr. Dre™ เพื่อที่สุดของประสบการณ์แห่งเสียงเพลงในแบบที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเมื่อเพลิดเพลินกับทุกบทเพลง และเส้นเสียงผ่านหูฟังหรือชุดลำโพง
          ด้วยดีไซน์โดดเด่น ไม่เหมือนใคร HP ENVY14 BeatsTM Edition มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ สรรค์สร้างขึ้นจากอลูมิเนียมชั้นดี พื้นผิวสบายมือ โน้ตบุ๊คสเปเชี่ยลอิดิชั่นใหม่ ยังคง คอนเซ็ปท์อันเป็นเอกลักษณ์ของ BeatsTM Audio ด้วยสไตล์สีโทนดำแดงสุดร้อนแรง พร้อมดับเบิลประสบการณ์การใช้งานด้วยแป้นพิมพ์แบบลอยตัวพร้อมไฟแบ็คลิทสีแดง และธีมวอลเปเปอร์ในแบบฉบับของ BeatsTM ตอบโจทย์ความสมบูรณ์แบบในงานดีไซน์ ที่ยากจะเลียนแบบ

โน๊ตบุ๊ค HP ENVY14 BeatsTM Edition พร้อมเปิดประตูสู่อิสรภาพแห่งการแสดงความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน ปรับแต่งผลงานภาพถ่ายหรือวิดีโอภาพเคลื่อนไหวในแบบที่เป็นคุณด้วยซอฟต์แวร์ Adobe Photoshop® Elements และ Adobe® Premiere


HP Mini 210
คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ครุ่น HP Mini 210 ใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับสีสันโดดเด่นสะดุดตา มีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ สีแดง Crimson Red สีชมพูสด Luminous Rose สีน้ำเงิน Ocean Drive และสีดำ Charcoal เพื่อสะท้อนตัวตน ทุกบุคลิกของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ HP Mini 210 ดีไซน์ใหม่นี้ ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยแบตเตอรี่มาตรฐานแบบ 6 เซลล์ อายุการใช้งานติดต่อกันยาวถึง 10.75 ชั่วโมง




โน้ตบุ๊ครุ่น HP Mini 210 มาพร้อมกับความบางเฉียบเพียงไม่ถึง 1 นิ้ว และมีน้ำหนักเริ่มต้นเพียง 1.26 กิโลกรัม ที่อัดแน่นไว้ด้วยประสิทธิภาพอันน่าทึ่ง อาทิ ออปชั่นเสริมรองรับการเล่นวิดีโอแบบไฮเดฟฟินิชั่น ดีไซน์ใหม่ตอบรับไลฟ์สไตล์ชีวิตต่อติดไม่เคยหยุดนิ่ง HP Mini 210 ใหม่รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อการท่องเว็บ เช็คอีเมล ฟังเพลงสุดโปรด หรือติดต่อเพื่อนสนิท คนสำคัญ ไม่พลาดทุกรายละเอียดแม้อยู่ นอกบ้าน ด้วยระบบเชื่อมโยงแบบไร้สาย WLAN กล้องเว็บแคม ไมโครโฟน และแป้นพิมพ์ลอยตัวขนาดใกล้เคียงมาตรฐาน นอกจากนี้ ตัวเลือกหน่วยประมวลผลจาก อินเทล อย่าง Atom N550 processors ที่พร้อมรองรับเทคโนโลยีหน่วยความจำ DDR3 memory

          จอแสดงผลแบบไฮเดฟฟินิชั่นขนาด 10.1 นิ้ว เทคโนโลยี Broadcom® Crystal HD Enhanced Video Accelerator ที่เป็นออปชั่นเสริม ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลิน ไปกับคอนเท้นท์แบบความละเอียดสูง หรือรับชมวิดีโอผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด นอกจากนี้ ระบบ Dolby® Advanced Audio ยังช่วยปลุกเร้าทุก โสตประสาทให้เปิดรับประสบการณ์ความบันเทิงทุกรูปแบบ
ซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อความบันเทิงแบบมัลติมีเดียไร้ขีดจำกัด ได้แก่

- HP Media Suite ช่วยให้จัดเก็บไฟล์ต่าง ๆ ไว้ในจุดเดียว และจัดการกับคอนเท้นท์ ต่าง ๆ ทั้ง ดนตรี รูปภาพ และวิดีโอได้อย่างง่ายดาย
- ซอฟต์แวร์ Evernote ใหม่เพื่อทุกการจดบันทึกไม่มีตกหล่น
นอกจากนี้ HP QuickSync ยังช่วยให้ผู้ใช้งานโน้ตบุ๊ค HP Mini 210 ใหม่ สามารถอัพเดทไฟล์ต่าง ๆ แบบไร้สายและซินโครไนซ์เข้ากับเครื่องพีซีหลักได้อย่างง่ายดายผ่านการเชื่อม ต่อระบบไร้สาย พร้อมกันนี้ เทคโนโลยี HP QuickWeb ยังช่วยให้เข้าใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายในไม่กี่วินาที แม้ยังไม่ได้เปิดเครื่อง
        
เทคโนโลยี HP Navigator ที่มาพร้อมกับออปชั่นของระบบ GPS ยังช่วยให้ท่องไปใน โลกกว้าง รองรับแผนที่ การวางแผนการเดินทาง จุดน่าสนใจ และระบบนำทางด้วยเสียง

ราคาและการจัดจำหน่าย
  • HP G42 Notebook PC มีวางจำหน่ายแล้ว ราคาเริ่มต้นที่ 19,990 บาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • HP ENVY14 BeatsTM Edition Notebook PC พร้อมชุดหูฟัง Beats Solo™ Headphones มีวางจำหน่ายแล้วที่ Power Mall สาขา The Emporium และ Siam Paragon ราคาเริ่มต้นที่ 79,990 บาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • HP Mini 210 มีวางจำหน่ายแล้ว ราคาเริ่มต้นที่ 12,990 บาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ในที่สุดก็ออกมาช่วยชีวิตแล้ว USB3.0 4 Port Hub ของ Trendnet

ตอนนี้มีเครื่องที่มี USB3.0 ออกมาให้ใช้กันบ้างแล้ว แต่ช่องก็ยังน้อยอยู่ ใครอยากต่ออุปกรณ์เยอะๆ คงผิดหวังอย่างแรง



แต่ทาง Trendnet ได้เปิดตัว USB3.0 4 Port Hub มันมีชื่อว่า TU3-H4 สามารถช่วยขยายช่อง USB3.0 ที่เครื่องของคุณออกมาได้อีกสามช่อง ถ้าปกติเราเสียบอะไรสักอย่างเข้าที่เครื่องอยู่แล้ว ตัวฮับมาพร้อมสายเคเบิลที่สามารถส่งข้อมูลได้ 5 GB/s เต็มๆ อยากจะเสียบอะไรเข้าเครื่องก็เสียบได้เลย ข้อเสียของมันก็คือราคา 2,500 บาท และกำลังจะส่งของให้ ฮับตัวนี้เสียบกับ USB2.0 ได้นะ
ทีมา : http://notebookspec.com/web/?cat=1

ทำกันเองบ้านๆ เนี่ยล่ะ เอา iPhone ต่อเข้ากับ iPad เออ ทำไปได้

ใครคิดว่า iPad จอเล็กไปและอยากได้พื้นทีเพิ่มเติม ลองตบยึด iPhone ของคนข้างๆ ดู และลองดูไอเดียนี้


เรื่องของเรื่องคือนาย Julian จาก Geeky Gadgets อยากจะดูหนังไปพร้อมๆ กับใช้ iPad เหมือนตอนอยู่ที่บ้าน ก็เลยเอา iPhone แปะเข้าไป แล้วดูหนังในจอเล็กพร้อมกับเล่นเน็ตในจอใหญ่ ทั้งหมดแค่ใช้ กาว พลาสติก ดูๆ ไปอาจจะเหมือนไม่แข็งแรง แต่ถ้าไม่หมุนจอบ่อยๆ มันก็ไม่หลุดออกมาหรอก
ที่มา : http://notebookspec.com/web/?cat=1

ไม่ได้แกะกล่อง แต่แกะเครื่อง Asus Eee PC 1015PN ดูข้างในกัน

เราได้เห็นการแกะกล่อง Asus Eee PC 1015PN ไปแล้ว แต่ตอนนี้เราจะแกะเครื่องดูไส้ในกันบ้าง


เครื่อง Asus Eee PC 1015PN มีจำหน่ายกันแถวๆ ยุโรป เป็นเครื่อง Intel Atom N550 พร้อม NVIDIA ION 2 อย่างแรกที่บรรดานักดัดแปลงอยากจะทำก็คือ เปลี่ยนฮาร์ดดิสก์จานหมุน 5400 rpm เป็น SSD เพื่อเพิ่มความเร็ว เนื่องจากทาง Asus ไม่ยอมทำฝาที่เอาไว้เปิดให้เปลี่ยนได้ง่ายๆ ดังนั้น ใครอยากจะเปลี่ยนก็ต้องรื้อเครื่องออกตามระเบียบ
วิธีการก็แค่ไขน็อตบางตัวที่ซ่อนอยู่ใต้แบตเตอร์รี่ออก จากนั้นก็ดึงคีย์บอร์ดออกไปให้พ้นทาง ไขน็อตออกอีก จากนั้นก็ฉีกใบรับประกันซะ และก็ถอดฮาร์ดดิสก์ออกมา
ส่วนบรรดาอุปกรณ์ทั้งหลายก็สามารถดูได้จากตำแหน่งในรูปภาพ ยกเว้นส่วนของ Intel Atom ที่ไปแอบอยู่ด้านหลัง เลยไม่เห็นอยู่ในรูป

 ที่มา : http://notebookspec.com/web/?cat=1

WSL Japan พร้อมปล่อย Tegra 2 Tablet ขนาด 10 นิ้ว ในเดือนนี้แล้ว

ญี่ปุ่นอาจจะเป็นที่แรกที่ได้ปล่อยเครื่อง Tegra 2 ไม่ว่าจะเป็นของ Mouse Computer LuvPad AD100 หรือ WSL Japan P10An01 ก็ตาม


   WSL Japan พร้อมปล่อย Tegra 2 Tablet ขนาด 10 นิ้ว ในเดือนนี้แล้ว

4048 ► Retweet   แบ่งปัน3  

 By :RUT|2010-10-12
ญี่ปุ่นอาจจะเป็นที่แรกที่ได้ปล่อยเครื่อง Tegra 2 ไม่ว่าจะเป็นของ Mouse Computer LuvPad AD100 หรือ WSL Japan P10An01 ก็ตาม
03-01 WSL Japan พร้อมปล่อย Tegra 2 Tablet ขนาด 10 นิ้ว ในเดือนนี้แล้ว

สำหรับราคาขายของเครื่อง WSL Japan P10An01 ที่เริ่มเอามาโชว์แล้วอยู่ที่ประมาณ 15,500 บาท คาดว่าจะเอาออกขายกันช่วงสิ้นเดือนนี้แหละครับ ที่น่าสนใจคือ ด้านหลังของเครื่องเขียนว่าเป็นของ Shuttle แต่ไม่เห็นมีข่าวว่าทำเครื่องออกมาขายเลย

สำหรับสเปคก็ค่อนข้างเหมือนกับ Tegra 2 ขนาด 10 นิ้ว ทั่วๆ ไป ใช้ Andriod 2.2 Nvidia Tegra 250 1 GHz, 1024 x 600 หรือ 1366 x 768 10.1″ Capacitive Touch Display, แรม 512 MB DDR2, พื้นที่ 512 MB, Wi-Fi, GPS, 3G, mini HDMI, 3x USB, SIM Card Slot, Micro SD Card Slot, G-sensor และกล้องอาจจะ 0.3 / 1.3 MP / 2.0 MP น้ำหนักประมาณ 700 – 750 กรัม บาง 13.6 cm ไม่มีปุ่ม Hardware Home หรือ Menu และยังไม่รู้ว่าวางเป้าหมายของเครื่องไว้แบบไหน

[Update] CULV vs. ATOM vs. Athlon Neo บทสรุปการประหยัดพลังงานกับประสิทธิภาพ

หลายคนคงได้รู้จัก CULV กันไปแล้ว แน่นอนครับ ผมเชื่อว่าหลายคนสงสัยแน่นอน ในเมื่อซีพียูตระกูล ATOM มีอยู่แล้ว จะยังมี CULV ออกมาทำไมให้ซ้ำซ้อน ทั้งๆที่ ATOM ก็ประหยัดพลังงาน ใช้ได้ที 5-6 ชั่วโมงอยู่แล้ว ก็แน่ล่ะครับ มันเป็นหนทางที่จะดูดเงินจากกระเป๋าเราได้ดีทีเดียว หุหุหุ
 ATOM ก็อาจจะถือว่าเป็น CPU แบบ ULV (Ultra Low Voltage) ได้ครับ เนื่องจากการใช้พลังงานที่ค่อนข้างต่ำ เหมาะกับการนำมาใช้งานบนเน็ตบุ๊ค ที่เหมาะกับการใช้งานจากแบตเตอรี่ ประหยัดพลังงาน และความร้อนน้อยลงด้วยครับ โดยเฉพาะ ATOM รุ่นยอดนิยมที่โผล่ออกมาจาก Intel อย่าง ATOM N270 และ N280 แล้ว ประสิทธิภาพถือว่าอยู่ในระดับที่ดีทีเดียว
 เราจะมาดู Spec ของ ATOM N270 ,N280 และ ซีพียู แบบ CULV บางรุ่นกันครับ


Model
Clock Speed
(GHz)
FSB
(MHz)
L2
(MB)
TDP
(W)
HD Boost
Core 2 Duo
SU9600 1.6 800 3 10 Ok
SU9400 1.4 800 3 10 Ok
Core 2 Solo
SU3500 1.4 800 3 5.5 Ok
Pentium Dual Core
SU2700 1.3 800 2 10 -
Celeron (Single Core)
723 1.2 800 1 10 -

สเปกของ Intel Atom N280
Core Frequency: 1.66GHz
Front Side Bus: 667MHz
Cache: 512 KB
Code Name: Daimonville
Number of Cores: 1
Technology: 45 nm
Core Voltage: 0.9V-1.162V
Max TDP: 2.5 Watts
Chipset: Intel GN40
Socket: PBGA437
ราคา: 2100-2275 บาท
สเปกของ Intel Atom N270
Core Frequency: 1.60GHz
Front Side Bus: 533MHz
Cache: 512 KB
Code Name: Daimonville
Number of Cores: 1
Technology: 45 nm
Core Voltage: 0.9V-1.162V
Max TDP: 2.5 Watts
Chipset: Intel GN40
Socket: PBGA437
ราคา: 1500-1750 บาท
พูดถึง CPU ประหยัดพลังงาน สิ่งแรกที่เราน่าจะพิจารณาเลย คงจะเป็น TDP หรือค่าการใช้พลังงานครับ เราจะเห็นได้ว่า ยังไงก็แล้วแต่ CULV ที่โฆษณานักหนาว่ากินไฟน้อย มันก็ยังน้อยไม่เท่า ATOM อยู่ดีล่ะครับ เพราะสเปค 2 ตัวที่เรายกมาเป็นตัวอย่าง ATOM ยังคงใช้พลังงานเพียงแค่ 2.5 w ขณะที่ CULV ใช้พลังงานตั้งแต่ 5.5 w – 10 w
เมื่อพิจารณาประสิทธิภาพคร่าวๆ จากสเปคที่ให้มา ก็คงต้องบอกว่า ATOM เป็นรอง CULV อยู่พอสมควรเลยครับ ตั้งแต่ FSB ที่ ATOM จะอยู่ที่ 533-667 MHz แต่ CULV อยู่ที่ 800 MHz และ L2 Cache ของ ATOM ทั้ง 2 รุ่นนั้นมีอยู่เพียง 512 K เมื่อเทียบกับ CULV ที่มีตั้งแต่ 1-3 MB แล้ว แน่นอนครับ เทียบกันไม่ติด จึงไม่แปลกอะไรที่ CULV จะกินพลังงานมากกว่า ATOM อยู่พอสมควร

 
   [Update] CULV vs. ATOM vs. Athlon Neo บทสรุปการประหยัดพลังงานกับประสิทธิภาพ

► Retweet   แบ่งปัน   

 By :notebookspec|2009-09-12
หลายคนคงได้รู้จัก CULV กันไปแล้ว แน่นอนครับ ผมเชื่อว่าหลายคนสงสัยแน่นอน ในเมื่อซีพียูตระกูล ATOM มีอยู่แล้ว จะยังมี CULV ออกมาทำไมให้ซ้ำซ้อน ทั้งๆที่ ATOM ก็ประหยัดพลังงาน ใช้ได้ที 5-6 ชั่วโมงอยู่แล้ว ก็แน่ล่ะครับ มันเป็นหนทางที่จะดูดเงินจากกระเป๋าเราได้ดีทีเดียว หุหุหุ
intel_atom
ATOM ก็อาจจะถือว่าเป็น CPU แบบ ULV (Ultra Low Voltage) ได้ครับ เนื่องจากการใช้พลังงานที่ค่อนข้างต่ำ เหมาะกับการนำมาใช้งานบนเน็ตบุ๊ค ที่เหมาะกับการใช้งานจากแบตเตอรี่ ประหยัดพลังงาน และความร้อนน้อยลงด้วยครับ โดยเฉพาะ ATOM รุ่นยอดนิยมที่โผล่ออกมาจาก Intel อย่าง ATOM N270 และ N280 แล้ว ประสิทธิภาพถือว่าอยู่ในระดับที่ดีทีเดียว
intel_culv
เราจะมาดู Spec ของ ATOM N270 ,N280 และ ซีพียู แบบ CULV บางรุ่นกันครับ
Model
Clock Speed
(GHz)
FSB
(MHz)
L2
(MB)
TDP
(W)
HD Boost
Core 2 Duo
SU9600 1.6 800 3 10 Ok
SU9400 1.4 800 3 10 Ok
Core 2 Solo
SU3500 1.4 800 3 5.5 Ok
Pentium Dual Core
SU2700 1.3 800 2 10 -
Celeron (Single Core)
723 1.2 800 1 10 -
สเปกของ Intel Atom N280
Core Frequency: 1.66GHz
Front Side Bus: 667MHz
Cache: 512 KB
Code Name: Daimonville
Number of Cores: 1
Technology: 45 nm
Core Voltage: 0.9V-1.162V
Max TDP: 2.5 Watts
Chipset: Intel GN40
Socket: PBGA437
ราคา: 2100-2275 บาท
สเปกของ Intel Atom N270
Core Frequency: 1.60GHz
Front Side Bus: 533MHz
Cache: 512 KB
Code Name: Daimonville
Number of Cores: 1
Technology: 45 nm
Core Voltage: 0.9V-1.162V
Max TDP: 2.5 Watts
Chipset: Intel GN40
Socket: PBGA437
ราคา: 1500-1750 บาท
พูดถึง CPU ประหยัดพลังงาน สิ่งแรกที่เราน่าจะพิจารณาเลย คงจะเป็น TDP หรือค่าการใช้พลังงานครับ เราจะเห็นได้ว่า ยังไงก็แล้วแต่ CULV ที่โฆษณานักหนาว่ากินไฟน้อย มันก็ยังน้อยไม่เท่า ATOM อยู่ดีล่ะครับ เพราะสเปค 2 ตัวที่เรายกมาเป็นตัวอย่าง ATOM ยังคงใช้พลังงานเพียงแค่ 2.5 w ขณะที่ CULV ใช้พลังงานตั้งแต่ 5.5 w – 10 w
เมื่อพิจารณาประสิทธิภาพคร่าวๆ จากสเปคที่ให้มา ก็คงต้องบอกว่า ATOM เป็นรอง CULV อยู่พอสมควรเลยครับ ตั้งแต่ FSB ที่ ATOM จะอยู่ที่ 533-667 MHz แต่ CULV อยู่ที่ 800 MHz และ L2 Cache ของ ATOM ทั้ง 2 รุ่นนั้นมีอยู่เพียง 512 K เมื่อเทียบกับ CULV ที่มีตั้งแต่ 1-3 MB แล้ว แน่นอนครับ เทียบกันไม่ติด จึงไม่แปลกอะไรที่ CULV จะกินพลังงานมากกว่า ATOM อยู่พอสมควร
athlon_neo
จากโน้ตบุ๊คในตลาดตอนนี้ เราจะเห็นได้ว่า CPU แบบ CULV ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่โน้ตบุ๊คในขนาดที่อยู่ระหว่างเน็ตบุ๊คกับโน้ตบุ๊ค ซึ่งในระดับเดียวกันนี้ เราจะเห็น CPU จากค่าย AMD  ออกมาอีกตัว ซึ่งก็คือ Athlon Neo ครับ รายละเอียดทางเทคนิคของ Athlon Neo ก็จะมีดังต่อไปนี้
AMD Athlon Neo MV-40
Model: MV-40
OPN Tray: AMGMV40OAX4DX
OPN PIB: N/A
Operating Mode: 32 Bit และ 64 Bit
Frequency (MHz): 1600
System Bus Speed (MHz): 1600
TDP: 15 W
L2 Cache Size: 512 KB
Process Technology: 65nm SOI
Package/Infrastructure Socket: ASB1
ส่วนตัวผมรู้สึกว่า AMD ไม่ค่อยทุ่มมากับ CPU ในระดับนี้เท่าไหร่ แรกเริ่มทีเดียว Athlon Neo เป็น CPU ที่ถูกสร้างมาใช้กับโน้ตบุ๊คในพิกัดที่อยู่ระหว่างเน็ตบุ๊คกับโน้ตบุ๊คครับ ซึ่งก็พิกัดเดียวกับ CULV ในปัจจุบันนั่นเอง แต่เมื่อดูรายละเอียดทางเทคนิคของ Athlon Neo แล้ว ก็ต้องบอกว่า ไม่ได้ดีไปกว่า ATOM สักเท่าไหร่เลย รวมถึงการใช้พลังงาน ที่สูงกว่าทั้ง ATOM และ CULV อีกด้วย คือ 15 W ดังนั้นก็ต้องบอกว่า Athlon Neo คงยังไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าสนใจ


กลับมาถึง CULV กับ ATOM กันบ้างครับ จริงอยู่ที่ในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ATOM อาจจะดูดีกว่า CULV แต่ในเรื่องของประสิทธิภาพ ทาง Intel ได้มีการเปิดเผยมาเองว่า CULV เป็น CPU ที่มีประสิทธิภาพในระดับเดียวกับซีพียูในตระกูล Core2 เดิมครับ ซึ่งแน่นอน เมื่อพิจารณาจาก L2 Cache และรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆ แล้ว ก็คงต้องบอกว่า CULV เหมาะกับการทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงกว่า ATOM ครับ เช่น การเล่นเกมส์และกราฟฟิกในระดับหนึ่ง ซึ่งถ้าดูจาก Platform ของโน้ตบุ๊คและซีพียูแล้ว ต้องบอกว่า CULV เหมาะสมกว่า ATOM ด้วยประการทั้งปวงครับ เพราะ ATOM ถูกออกแบบมาให้ใช้กับ Netbook คงไม่มีใครนำ Netbook จอเล็กกะจิดริดไปเล่นเกมส์ใช่มั้ยครับ ?

ส่วนเรื่องของการประหยัดพลังงานนั้น เฉพาะตัว CPU เราอาจจะเห็นว่า ATOM ใช้พลังงานน้อยกว่า CULV แต่ทำไม CULV บางตัวใช้งานได้ตั้ง 8 ชั่วโมง แต่ ATOM บางตัวใช้งานได้แค่ 6 ชั่วโมงเอง ซึ่งในการใช้งานจริงๆ  นั้น ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆด้วยครับ ไม่ว่าจะแป็นแบตเตอรี่ อุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ และลักษณะการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนครับ ดังนั้นแล้ว ผู้ผลิตจะคำนวณระยะเวลาการใช้งานเฉลี่ยของ CULV และ ATOM มาใกล้เคียงกัน เพราะการใช้งานที่แตกต่างกันและอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงคุณภาพของแบตเตอรี่ที่แตกต่างกันด้วยนั่นเอง ส่วนเรื่องความร้อนโน้ตบุ๊คที่ใช้ซีพียู ATOM เน้นการออกแบบตัวเครื่องที่ค่อนข้างเล็ก กะทัดรัด ระบบระบายความร้อนดี และตัวซีพียูเองถูกพิกัดน้ำหนักมาเพื่อใช้งานทั่วๆไป เรื่องความร้อนจึงไม่น่าเป็นห่วง ส่วน CULV มีเทคโนโลยี Intel Laminar Wall Jet ที่ทำให้การระบายความร้อนมีประสิทธิภาพ จึงไม่ต้องพึ่งพาฮีตซิงค์ใหญ่โต ถึงจะใช้งานหนักยังไง เทคโนโลยีนี้ก็จะช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เรื่องความร้อนก็คงไม่ใช่ปัญหาของ CULV ด้วยเช่นกัน
บทสรุปของ CPU ทั้ง 3 ตัวนี้ คงจะได้ว่า
  1. AMD Athlon Neo Peocessor ยังดูไม่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ CULV และ ATOM เพราะ Athlon Neo ถูกกำหนดพิกัดมาชนกับ CULV โดยเฉพาะ แต่เมื่อดูรายละเอียดทางเทคนิคแล้ว ยังคงไม่แตกต่างกับ ATOM มากนัก
  2. ATOM เหมาะกับการใช้งานที่ไม่หนักมาก พิมพ์งาน เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังทั่วๆไป ไม่เหมาะกับการใช้งานค่อนข้างหนักอย่างเล่นเกมส์ ทำงานกราฟฟิกเบื้องต้น ซึ่งงานตรงนั้น ควรจะเป็นหน้าที่ของ CULV มากกว่า เนื่องจากรายละเอียดทางเทคนิคที่สูงกว่านั่นเอง
  3. การออกแบบตัวโน้ตบุ๊คที่ใช้ ซีพียู ATOM และ CULV ผู้ผลิตส่วนใหญ่จะออกแบบต่างกันอยู่แล้ว ดังนั้น ระยะเวลาการใช้งานเฉลี่ยของเครื่องอาจไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ของผู้ผลิตด้วย ผู้ซื้อจึงควรที่จะตรวจสอบรายละเอียดตัวเครื่องก่อนการตัดสินใจซื้อทุกครั้ง
** สรุปตารางเปรียบเทียบ SPEC และ Performance

Realtek High Definition Audio Driver R2.53

เครื่องสมัยนี้ยังไงๆ ถ้ามีการ์ดเสียงออนบอร์ดติดมาด้วย ก็ต้องเป็นของ Realtek แน่นอน ข่าวดีก็คือทาง Realtek ได้ทำการออกไดรเวอร์รุ่นใหม่แล้ว ชื่อรุ่น R2.53 รองรับทั้ง Microsoft Windows XP/2000, Microsoft Windows Vista/7 ใครเคยมีปัญหาลง Windows 7 แล้วเสียงไม่ออกช่องหน้า ลองโหลดไดรเวอร์ตัวนี้ไปลงดูนะครับ อาจจะหาย สำหรับรายละเอียดของการปรับปรุงมีดังนี้
1. Microsoft Windows Vista/7 WHQL รองรับ : ALC882, ALC883, ALC885, ALC888, ALC889, ALC892, ALC861VD, ALC660, ALC662, ALC663, ALC665, ALC260, ALC262,ALC267, ALC268, ALC269, ALC270, ALC272, ALC273, ALC887,ALC670, ALC275, ALC680
2. Microsoft Windows XP/2000 WHQL รองรับ : ALC880, ALC882, ALC883, ALC885, ALC888, ALC889, ALC892, ALC861VC, ALC861VD, ALC660, ALC662, ALC663, ALC665, ALC260, ALC262, ALC267,ALC268, ALC269, ALC270, ALC272, ALC273, ALC887,ALC670, ALC275, ALC680
3. HDMI Device WHQL รองรับ : ATI HDMI Device
4. ระบบปฏิบัติการที่สามารถติดตั้งไดรเวอร์ได้ คือ Windows 2000, Windows Server 2003, Windows Server 2008, Windows XP, Windows Vista, Windows 7 ทั้ง 32 และ 64 บิต
5. มี Microsoft High Definition Audio UAAV1.0a(5013) ติดมาให้ในชุดด้วย
6. มีการแก้บักอีกเล็กน้อย
เว็บไซต์ผู้ผลิต : http://www.realtek.com.tw/
ลิงค์สำหรับดาวน์โหลด : High Definition Audio Codecs

ที่มา: http://notebookspec.com/web/?cat=1

แกะกล่อง Asus Eee PC 1015PN หน้าจอแค่ 1024 ไม่มี Optimus ฟันธง

หลังจากงงๆ กับข่าว 1015PN ว่าจะจอ HD หรือจะมี Optimus หรือไม่ สรุปกันง่ายๆ ว่าไม่มีอะไรทั้งนั้น

เครื่อง Asus Eee PC 1015PN ใช้ Intel Atom N550 และ NVIDIA ION 2 ตามกระแส ตอนนี้สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ในหลายๆ เว็บ เช่น ExcaliberPC ที่มีเครื่องสำรองพร้อมบริการแล้ว ส่วน Amazon.com สามารถสั่งของได้แล้ว แต่ทางเว็บยังไม่มีของสำรองไว้ สำหรับตัวเครื่องก็คล้ายๆ 1015PEM มีหน้าจอและฝาแบบด้าน แต่ส่วนอื่นๆ จะเงา
เนื่องจากเครื่องติดตั้ง Windows 7 Starter ทำให้ไม่สามารถใช้ Optimus ได้ ถ้าหากต้องการจะปรับการ์ดจอก็ต้องทำการรีบูตเครื่องด้วย หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องซื้อ Windows ตัวใหม่ที่สูงกว่ามาลงเอง สำหรับความละเอียดหน้าจอ เสียใจด้วยที่ต้องบอกว่า 1024 x 768 ธรรมดาๆ จุดที่ดีก็คือ เครื่องทำงานได้ดีกว่าตัว Single Core และมีความร้อนนิดหน่อยตอนใช้ ION ถ้าอยากให้ดีกว่านี้ก็คงต้องมีจอ HD และก็ Windows 7 Home Premium

ที่มา : http://notebookspec.com/web/?cat=1

Asus Eee PC 1215P พร้อมจำหน่ายที่ประเทศเยอรมันนีแล้วแน่นอน

เมื่อประมาณเดือนสองเดือนก่อน มีข่าวว่าเครื่อง Asus Eee PC ขนาด 12 นิ้ว รุ่น 1215P ได้ปรากฏโฉมบนเว็บขายของออนไลน์หลายเว็บในเยอรมันนี
สำหรับตัวเครื่องก็ไม่ได้น่าตื่นตกใจอะไรนักหน้า เพราะเป็น Intel Atom N550 และก็ Intel GMA 3150 ธรรมดาๆ แต่ว่าสเปคด้านล่างเป็นสเปคอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับเครื่องขายจริง ราคาอยู่ที่ 19,000 บาท
  • Intel Atom N550 processor (1.5GHz, dual core)
  • Intel GMA 3150 graphics
  • 2GB DDR3 RAM (2 slots)
  • 250GB HDD
  • 802.11b/g/n Wi-Fi
  • 10/100 LAN
  • 0.3MP webcam
  • 3x USB 2.0, VGA, audio jacks, card reader
  • Windows 7 Professional 32-bit / Express Gate OS
  • 6-cell battery 4400 mAh / 40Wh battery
  • 1.46 kg
ที่มา: http://notebookspec.com/web/?cat=1


ไมโครซอฟท์ มุ่งมั่นเป็นผู้นำพาวงการไอทีไทยสู่ยุคคลาวด์คอมพิวติ้ง

มุ่งเน้นการตลาดสำหรับรีเทล วินโดวส์ 7 ออฟฟิศ 2010 พร้อมส่งวินโดวส์ โฟน 7 กระตุ้นตลาดมือถือ

ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) ประกาศทิศทางการดำเนินธุรกิจประจำปีงบประมาณ 2554 พร้อมทั้งแสดงวิสัยทัศน์ในการนำประเทศไทยเข้าสู่ยุคคลาวด์คอมพิวติ้ง เผยแนวทางรักษาการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทฯ เอาไว้ ด้วยการนำเสนอประโยชน์ในการใช้งานซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์แก่ผู้บริโภค ในขณะเดียวกัน ก็มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ท้องถิ่นและการพัฒนาความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน


นาง สาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปีงบประมาณที่ผ่านมาว่า “แม้ในภาวะเศรษฐกิจผันผวน ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2553 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย โดยมีการเติบโตถึงร้อยละ 13 นอกจากนี้ ยังประสบผลสำเร็จในส่วนของ Microsoft Partner Network โดยคู่ค้าของไมโครซอฟท์จำนวนทั้งสิ้น 4 ราย ได้รับรางวัลคู่ค้าดีเด่นจาก Microsoft Worldwide Partner Conference 2010 ในขณะเดียวกัน การ์ทเนอร์ ยังได้จัดอันดับให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 30 ประเทศที่มีศักยภาพทางด้าน IT Outsourcing สูงสุด โดยเป็นผลสืบเนื่องโดยตรงมาจากการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ใน ประเทศ”
“สำหรับ ทิศทางในอนาคต เราเริ่มต้นปีงบประมาณ 2554 ด้วยข่าวดีจากการชนะเลิศการแข่งขัน Imagine Cup 2010 ประเภท Software Design ของทีม SkeeK จากมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ซึ่งทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่คว้ารางวัลดังกล่าวมาได้ถึง 2 สมัย” นาวสาวปฐมา กล่าวเสริม “อย่างไรก็ตาม คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศไทยยังคงต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจและ สังคมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ไมโครซอฟท์จึงให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการค้นหาแนวทางใหม่ๆ ในการนำเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ไปช่วยส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จในประเทศ ผ่านความร่วมมือและความมุ่งมั่นในโครงการต่างๆ เพื่อความสำเร็จในระยะยาว”
ทิศ ทางในการดำเนินงานที่สำคัญของไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ในปีนี้ ได้แก่ การสร้างความต่อเนื่องของผลิตภัณฑ์วินโดวส์ 7 และไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ 2010 การยกระดับความพึงพอใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์และธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และการเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง โดยผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ที่จะออกสู่ตลาดในอนาคตอันใกล้นี้ ได้แก่ Internet Explorer 9 (บุคคลทั่วไปสามารถดาวน์โหลดเวอร์ชั่นเบต้าได้แล้ว) และวินโดวส์โฟน 7
“จาก ความสำเร็จของวินโดวส์ 7 ในปี 2552 ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยอย่างท่วมท้น จนทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่มีการเริ่มใช้งานวินโดวส์ 7 เร็วที่สุดในโลก  ไมโครซอฟท์มุ่งมั่นที่จะสื่อสารและใกล้ชิดกับผู้บริโภคยิ่งขึ้น นอกเหนือไปจากการเปิดตัวช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์แบบอ อนไลน์ที่ www.msonlinestore.com แล้ว ปี 2553 ยังเป็นปีสำคัญที่ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว ไมโครซอฟท์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ แกลเลอรี่ อย่างเป็นทางการ 3 แห่ง ในกรุงเทพฯ ณ ห้างสรรพสินค้าไอทีมอลล์ และได้ร่วมมือกับคอมเซเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัวสาขาล่าสุดที่ห้างพาราไดซ์พาร์ค เมื่อเร็วๆ นี้ และต่างจังหวัด ที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับเชียงใหม่สยามทีวี ทั้งยังมีแผนที่จะเปิดเพิ่มเติมอีกหลายแห่งทั่วประเทศ ช่องทางดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์และ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของไมโครซอฟท์ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยจะช่วยเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภคให้เห็นถึงคุณค่าของซอฟต์แวร์แท้ ทั้งยังสอดคล้องกับแคมเปญ ‘100% Value of Genuine’ ของไมโครซอฟท์ที่ต้องการจะส่งเสริมความเข้าใจประโยชน์จากการใช้งานซอฟต์แวร์ วินโดวส์ 7 แบบลิขสิทธ์ของผู้บริโภค”

นอก จากนี้ การขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ธีม ‘Looking Beyond the Future’ ของไมโครซอฟท์ในปีงบประมาณนี้ ยังรวมไปถึงการมุ่งไปสู่เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง และเตรียมพร้อมคู่ค้า ผู้ใช้งาน และ ธุรกิจต่างๆ ในการก้าวไปสู่ยุคคลาวด์ คอมพิวติ้ง อย่างเต็มรูปแบบ ไมโครซอฟท์พร้อมในการนำเสนอเทคโนโลยี คลาวด์      คอมพิวติ้ง ใน 3 รูปแบบ ได้แก่ ‘software as a service’, ‘platform as a service’ และ ‘infrastructure as a service’ ซึ่งรวมไปถึงบริการแบบ private, public และ on-premises โดยสามารถเข้าถึงได้ ผ่านทาง 3 ช่องทาง คือ พีซี เบราเซอร์ และ โทรศัพท์เคลื่อนที่ จึงทำให้ครอบคลุมทั้งผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นคอนซูมเมอร์ทั่วไปและกลุ่มธุรกิจต่างๆ
“ด้วย ประสบการณ์ในการให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งขนาดใหญ่ที่สุดและน่าเชื่อถือมาก ที่สุดมากว่า 15 ปี ไมโครซอฟท์พร้อมแล้วที่จะนำอุตสาหกรรมไอทีเข้าสู่ยุคคลาวด์คอมพิวติ้ง และไมโครซอฟท์นับเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมความ ต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ในการให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งทั้งประเภท public และ private ทั้งยังพร้อมในการนำเสนอโซลูชั่นต่างๆ ของไมโครซอฟท์เพื่อความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจ และการลดค่าใช้จ่าย สำหรับภาคธุรกิจ ภาครัฐ และผู้ใช้งานทั่วประเทศ” นางสาวปฐมา จันทรักษ์ กล่าว
ภาย ในงานแถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจของไมโครซอฟท์ ยังได้รับเกียรติจากตัวแทนจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยหอการค้า ไทย ที่ได้มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การใช้งานคลาวด์คอมพิวติ้งของไมโครซอฟท์ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่าย และเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน
“เรา เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เตรียมโครงสร้างพื้นฐานและนำเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง ของไมโครซอฟท์มาใช้ทั้ง Virtualization และ Dynamic Data Center องค์ประกอบ สำคัญต่อการบริหารทรัพยากรคอมพิวเตอร์ของประเทศใน อนาคตสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การเสริมสร้างศักยภาพการ แข่งขัน และการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ” ดร.ภุชงค์ อุทโภาศ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าว
ด้าน อาจารย์ปรเมศ ส่งแสงเติม รองอธิการบดีฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า “เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในประเทศที่ได้นำเทคโนโลยี คลาวด์คอมพิวติ้งของไมโครซอฟท์ไปใช้ เพื่อสร้างสังคมการเรียนรู้แบบดิจิตอล ด้วยการผนวกรวมระบบ Hybrid Learning 2.0 เข้ากับหลักสูตรในการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย เราได้เปลี่ยนโฉมหน้าของการเรียนภายในห้องเรียนไปอย่างสิ้นเชิง โดยการเปิดโอกาสให้นักศึกษา และอาจารย์สามารถสื่อสารกันได้ผ่านทางชุมชนออนไลน์ ผ่านทางบริการคลาวด์คอมพิวติ้งของไมโครซอฟท์ ดังนั้น นักศึกษาจึงสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด หรือใช้เครื่องมือใดก็ตาม วิสัยทัศน์ของไมโครซอฟท์ทางด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง นับได้ว่าช่วยยกระดับมาตรฐานทางด้านการศึกษาของเราให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องเป็นอย่างดีกับไลฟ์สไตล์ในแบบดิจิตอลของนักศึกษาในศตวรรษที่ 21”
และเพื่อเป็นการสนับสนุนการพัฒนาโซลูชั่นที่ เกี่ยวกับคลาวด์คอมพิวติ้งและการนำไปใช้งานจริงในภาคธุรกิจ ไมโครซอฟท์ได้จัดทำ Microsoft ISV Solution Directory 2010 ผ่านเว็บไซต์ www.microsoft.com/thailand/isv ซึ่งรวบรวมรายชื่อบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์โซลูชั่นที่เกี่ยวกับ คลาวด์คอม
พิวติ้ง เพื่อเป็นช่องทางให้ภาคธุรกิจได้ค้นหาบริษัทพัฒนาโซลูชั่นคลาวด์คอมพิวติ้ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจ
นายสรณะ ทัศนสันติ์ Business Development Executive บริษัท ไทยเควสท์ จำกัด กล่าวว่า “ไทยเควสท์ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีไมโครซอฟท์ ซึ่งมีการใช้งานง่าย ในการพัฒนาเครื่องมือค้นหาข้อมูลและแอพพลิเคชั่นค้นหาข่าวออนไลน์ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนทางเทคนิค ผ่าน Microsoft ISV Solution Directory 2010 ซึ่งเป็นเสมือนตัวกลางจับคู่ระหว่างบริษัทและนักพัฒนาซอฟต์แวร์ท้องถิ่น และภาคธุรกิจที่กำลังมองหาโซลูชั่น จึงช่วยให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในแง่ความรวดเร็วและการตอบโจทย์ความต้องการการใช้งานของลูกค้า เราตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความสนใจจากภาคธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นในรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น ตัวอย่างเช่น แอพพลิเคชั่น ThaiQuest e-Edition ของบริษัทฯ ซึ่งเป็น proof of concept ประเภทคลาวด์ คอมพิวติ้ง ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาสำหรับผู้จัดพิมพ์ข่าว โดยแอพพลิเคชั่นดังกล่าวช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าถึงข่าวต่างๆ ซึ่งถูกโฮสต์ไว้บนคลาวด์คอม
พิวติ้งได้ผ่านทางเว็บเบราเซอร์ นอกจากนี้ ด้วยการรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ประเภททัชสกรีน ผู้อ่านจะได้รับประสบการณ์รูปแบบใหม่จากการอ่านข้อความและรูปภาพต่างๆ ในข่าวในรูปแบบดิจิตอล ทั้งยังสามารถใช้ฟีเจอร์การค้นหาข้อมูล ThaiQuest Enterprise Search เพื่อค้นหาข่าวต่างๆ ในฐานข้อมูลด้วยการใช้คีย์เวิร์ดได้อย่างง่ายดาย”
เทคโนโลยี คลาวด์คอมพิวติ้งมีส่วนอย่างยิ่งในการนำโอกาสใหม่ๆ เข้ามาสู่ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย และยังช่วยเสริมให้ความมุ่งมั่นของไมโครซอฟท์ในการสนับสนุนนวัตกรรมท้องถิ่น และโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในทุกๆ ช่วงได้ดียิ่งขึ้น นับตั้งแต่การทดสอบการใช้งานซอฟต์แวร์ ไปจนถึงการจับคู่ทางธุรกิจ อาทิ ศูนย์พัฒนานวัตกรรมซอฟต์แวร์ไทย หรือ Microsoft Innovation Centre รวมถึงโครงการ Microsoft BizSpark และ โครงการ WebsiteSpark
“สำหรับ ไมโครซอฟท์ เรามองเห็นโอกาสที่สดใสในการเติบโตแบบก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของ ประเทศ เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้น เราจะต้องพัฒนาเทคโนโลยีที่ปลอดภัย สร้างสรรค์ และได้มาตรฐาน ซึ่งจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่แน่ชัดภายใต้ราคาที่สมเหตุสมผล ในฐานะที่เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและที่ปรึกษาทางด้านเทคโนโลยีที่มีความ น่าเชื่อถือ ไมโครซอฟท์ยังคงมุ่งมั่นที่จะผลักดันเทคโนโลยีให้เป็นเครื่องมือที่สำคัญใน การเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย” นาวสางปฐมา กล่าวสรุป

ที่มา :  http://notebookspec.com/web/?p=48964

เอชพี เดินหน้าพัฒนารูปแบบการให้บริการไม่มีหยุดยั้ง จัดทัพ HP 30 Minutes Express Service เอาใจคอคนรักโน้ตบุ๊ค

เอชพี ผู้นำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ระดับโลก วันนี้ ประกาศเดินหน้าพัฒนารูปแบบการให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้า

อย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมเปิดตัวบริการใหม่ HP 30 Minutes Express Service เอชพีบริการซ่อมด่วนทันใจ รวดเร็วฉับไวใน 30 นาที อัน เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งโครงการนำร่องในนโยบายการพัฒนาการให้บริการลูกค้า อย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มความพึงพอใจสูงสุด ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าด้วยดีเสมอมา สมกับแนวคิด The Computer is Personal Again


บริการ HP 30 Minutes Express Service หรือ เอชพีบริการซ่อมด่วนทันใจ รวดเร็วฉับไวใน 30 นาที ใหม่นี้ ที่ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญงาน พร้อมด้วยระบบทดสอบอุปกรณ์ ที่สามารถดำเนินงานตรวจสอบและซ่อมเครื่องขั้นพื้นฐานให้แก่ลูกค้า โน้ตบุ๊คได้  อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลา 30 นาที ซึ่งประกอบไปด้วย การให้บริการซ่อมพื้นฐานในปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่ อะแดปเตอร์ ซีดีและดีวีดี-รอม ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ใช้งานโน้ตบุ๊ค  ทั้งนี้ ในระยะเริ่มต้น HP 30 Minutes Express Service พร้อม ให้บริการลูกค้าโน้ตบุ๊คของเอชพีที่ยังอยู่ในระยะ รับประกัน สำหรับโน้ตบุ๊คในรุ่นที่ร่วมรายการ ได้แก่ HP Pavilion dv3-4xxx Series, HP Pavilion dm4 Series, HP Pavilion dv6-3xxx Series, HP EliteBook รุ่น 2540p, 2740p, 8440p, 8540p และ HP G Series ใหม่ล่าสุด
HP 30 Minutes Express Service พร้อมให้บริการซ่อมด่วนทันใจ รวดเร็วฉับไวใน 30 นาที แล้ววันนี้ที่ศูนย์ บริการ HP Service Center จำนวน 5 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ ศูนย์กรุงเทพฯ อาคารอื้อจือเหลียง ถ.พระราม 4 (โทร 0-2353-9000) ศูนย์ชลบุรี (โทร  038-271-828) ศูนย์เชียงใหม่ ถ.ช้างคลาน (โทร 053-281-175) ศูนย์ขอนแก่น ถ.ศรีจันทร์ (โทร 043-228-103) และศูนย์หาดใหญ่ (สงขลา) ถ.จุติอนุสรณ์  (โทร 074-234 205-6 และ 074-232-288)
อย่างไรก็ดี สำหรับลูกค้าโน้ตบุ๊คของเอชพีในจังหวัดอื่น ๆ ยังสามารถมั่นใจกับคุณภาพ การให้บริการรูปแบบปรกติ ผ่านศูนย์บริการ มาตรฐานชั้นนำ 53 แห่ง และจุดรับส่งซ่อม    รวม 91 จุดทั่วประเทศ เพื่อความสะดวกสบายและไว้วางใจได้ไม่แพ้กัน

ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
เอชพี มุ่งมั่นสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งาน กลุ่มธุรกิจ และสังคมได้รับประโยชน์                 อย่างเต็มประสิทธิภาพ เอชพีเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยนำเสนอพอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์ครบวงจรครอบคลุมทั้งด้านการพิมพ์ คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ การบริการ ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที เพื่อช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้กับลูกค้า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพี (NYSE: HPQ) สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.hp.com

ที่มา: http://notebookspec.com

บทสรุป ซีพียู Core i7 บนโน๊ตบุ๊กเทคโนโลยีใหม่สุดแรง ที่ไม่ไกลเกินเอื้อม

จากเมื่อวานได้ลงบทความเรียกน้ำย่อยไปแล้ว วันนี้เราจะมาสรุปภาพรวมเทคโนโลยีซีพียู Core i7 บนโน๊ตบุ๊ก แบบเข้าใจแจ่มแจ้งไปเลย

ในวันนี้ทั้งประเทศไทยและทั่วโลก Intel ได้ถือโอกาศเปิดตัวซีพียู Core i7 บนโน๊ตบุ๊กอย่างเป็นทางการ โดยจุดเด่นนั้นยังคงเหมือน Core i7 บนเครื่อง PC แทบทั้งหมด แต่จะมีบางส่วนที่ปรับปรุงเพิ่มเติมไปให้เหมาะสมกับการใช้งานในโน๊ตบุ๊กมาก ขึ้น




โดยจุดเด่นของ Core i7 Mobile ที่ Intel นำเสนอได้แก่
  • ตัวควบคุมหน่วยความจำ(RAM) ชนิด Dual-Channels DDR3 (Integrate Memory Controller)
  • QuickPath Interconnect(QPI) เป็นเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพของระบบบัสที่จะเข้ามาแทน FSM
  • หน่วยความจำ แคช ระดับ 3 (Cache L3)
  • ชุดคำสั่ง SSE 4.2
Turbo Boost

โดยฟังค์ชั่นเด็ดที่คงไม่พูดถึงคงจะไม่ได้เพราะเป็นฟังค์ชั่นใหม่ที่ เพิ่มเข้ามาในซีพียู Core i7 ก็คือ Turbo Boost ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เมื่อโปรแกรมจำเป็นต้องใช้ เช่น ในเวลาใช้งานทั่วไปจะปิด HT หรือ Core บาง Core ไว้ เพื่อประหยัดพลังงาน แต่เมื่อต้องประมวลผลหนักๆ ก็จะเปิด Core หรือ HT ที่ปิดไว้เพื่อนำมาใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มความเร็วของซีพียูให้เกินสเปกที่กำหนดมาได้ คล้ายกับการทำ Overclock (OC) ตัวซีพียูจะตัวปรับตัวเองโดยอัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องไปปรับแต่งให้ยุ่ง ยาก ซึ่งซีพียูจะเป็นตัวตัดสินใจเองว่าเมื่อไรที่ต้องใช้ฟังค์ชั่น Turbo Boost เช่นในการรันโปรแกรม 3D หนักๆ โดยซีพียูนั้นจะสามารถทำงานสูงขึ้นไปได้ขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 อย่าง คือ
  1. กำลังไฟที่สามารถจ่ายให้ซีพียูได้ (TDP)
  2. อุณหภูมิซึ่งจะถูกควบคุมไม่ให้สูงมากจนเกินไป
โดยความเร็วที่สามารถทำได้นั้นขึ้นอยู่กับจำนวน Core ของซีพียูด้วย ถ้าใช้งานหลาย Core ก็จำเป็นที่จะต้องใช้กำลังไฟมากและความร้อนที่แผ่ออกมาก็จะสูงทำให้ไม่ สามารถดันซีพียูให้มีความเร็วสูงมากๆได้ แต่ถ้าหากใช้งานซีพียูเพียงแค่ Core เดียวจะทำให้สามารถดันความเร็วของซีพียูด้วยฟังค์ชั่น Turbo Boots ได้สูงมากเช่นในรุ่น 820QM ซึ่งมีความเร็วเดิมๆที่ 1.73 GHz เมื่อใช้ฟังค์ชั่น Turbo Boost แล้วเปิดใช้งานแค่ Core เดียว จะทำให้ซีพียูมีความเร็วสูงถึง 3.02 GHz เลยทีเดียว

Hypert Threading (HT)

ฟังค์ชั่น Hypert Threading (HT) เคยมีให้ให้มาแล้วในยุค Pentium 4 แต่ด้วยซีพียูในยุคหลังๆสามารถผลิตให้ซีพียูมีหลาย Core ได้ ฟังค์ชั่นนี้ก็เลยโดนตัดออกไปในยุคของ Core 2 Duo โดยจุดเด่นของ Hypert Threading (HT) นี้จะอยู่ที่การจำลอง Core เสมือนของซีพียูขึ้นมาอีก 1 Core โดยจะใช้ทรัพยากรร่วมกับ Core จริงๆ เช่น หน่วยความจำแคช (ซึ่งถ้าหากเป็น Core จริงๆจะมีหน่วยความจำแคชเป็นของตัวเอง) ทำให้เสมือนว่ามี Core ซีพียูเพิ่มขึ้นมา ซึ่งทำให้ในหนึ่งเวลาซีพียูที่มีฟังค์ชั่น HT จะสามารถประมวลผลได้ 2 งานพร้อมกัน หรือจะเรียกว่า 2 Thread ทำให้ซีพียู Core i7 นี้ที่มี 4 Core ทำให้สามารถประมวลผลได้ 8 งาน หรือ 8 Threadห พร้อมกันเลยทีเดียว ซึ่งจะแตกต่างจากใน Core 2 Duo ซึ่งสามารถประมวลผลได้แค่ 2 Thread หรือ Core 2 Quad ที่ประมวลผลได้ 4 Threads ครับ
Chipset Intel PM55 Express Chipset
มาในส่วนของชิปเซ็ตนั้นก็ยังคงเป็นชิปเซ็ต PM55 ตัวเดียวกับในเมนบอร์ดของเครื่อง PC ซึ่งเป็นชิปเซ็ตมาตรฐานของซีพียู Core i7 อยู่แล้ว โดยมีการปรับปรุงบางส่วนเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานแบบโน๊ตบุ๊กเช่นการ บริโภคพลังงานโดยจุดเด่นของ PM55 ได้แก่
  • รองรับการ์ดจอ PCI Express 2.0 แบบ 16x 1 ช่องหรือ 2 ช่อง แบบ 8+8 ทำให้สามารถใช้งาน Dual การ์ดจอได้
  • ระบบเสียง Intel High Definition Audio
  • ฮาร์ดดิสค์ SATA 3 Gb/s รองรับสูงสุดที่ 6 ลูก
  • USB รองรับสูงสุดถึง 14 ports
  • Gigabit LAN
Spec CPU Core i7 Mobile
Intel เปิดตัวซีพียู Core i7 สำหรับโน๊ตบุ๊กมาก่อนเลย 3 รุ่น โดยจะเป็นกลุ่ม Extreme และกลุ่มทั้วไป


โดยในกลุ่ม Extreme ซึ่งจะเป็นรุ่นซีพียูที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดของซีพียูโน๊ตบุ๊กในปัจจุบัน ก็ว่าได้จะมีรุ่น i7-920XM มีความเร็วสูงถึง 2.00 GHz และใช้พลังงานสูงถึง 55 w เรียกได้ว่าเป็นซีพียูบริโภาคพลังงานสูงสุดในปัจจุบันเลย (รุ่น top ของ C2Q Qx9300 ยังใช้พลังงานน้อยกว่าที่ 45 w) และยังมาพร้อมราคาแพงน่าดูเลยที่ $1,051 ตีเป็นเงินไทยก็ราวๆกว่า 35,000 บาท ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราคาเครื่องครับเพราะขนาดใช้ซีพียูตัว top แล้ว สเปกอื่นๆก็คงต้อง top ระดับสูงสุดเป็นแน่แท้ เบ็ดเสร็จรวมๆแล้วคงไม่ต่ำกว่า แสนแน่ๆครับ
ส่วนกลุ่มต่อมาเป็นกลุ่มทั่วไปที่เน้นประสิทธิภาพต่อราคา 2 รุ่น ทั้ง i7-820QM (ที่มีผลทดสอบไปก่อนหน้านี้) สเปกนั้นจะคล้ายๆกับ i7-920XM แต่จะลดความเร็วลงมาเป็น 1.73 GHz และใช้พลังงานน้อยลงมาเป็น 45 w (เท่าๆกับซีพียู Core 2 Quad ) และราคาตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 18,000 บาท แต่ประสิทธิภาพที่ออกมานั้นสูสีกับรุ่นเคย top อย่าง QX9300 เลยทีเดียว และรุ่นสุดท้ายเป็นน้องสุดท้อง i7-720QM ความเร็วระดับพอเพียงที่ 1.60 GHz โดยจะโดนตัดแคช L3 ออกไปเหลือ 6 MB ทำให้มีราคาต่ำสุดในตระกูล Core i7 ที่เพียงประมาณ 12,000 บาท
แล้ว Core i7 เป็น Centrino 2 ไหมครับ

โดยทฤษฎีเป็นเซนทริโน 2 ครับเพราะยังใช้เทคโนโลยีการผลิต 45 nm อยู่ แต่ในทางปฏิบัติไม่ใช่เพราะชิปเซ็ตนั้นเป็นรุ่นใหม่ PM55 โดยประเด็นนี้ก็ได้มีการพูดถึงในงานเปิดตัวด้วย เพราะว่าในอนาคตคำว่าแพลตฟอร์มเซนทริโน 2 นั้น อาจจะมีแค่ในรุ่นของซีพียู Core 2 Duo เท่านั้น ส่วนใน Core i7 หรือ Core i อื่นๆ ที่จะเปิดตัวตามมานั้น ตัวของสถาปัตยกรรมซีพียูจะเป็นตัวกำหนดแพลตฟอร์มเอง เช่น Core i7 จะต้องใช้งานร่วมกับชิปเซ็ต PM55 เท่านั้น ซึ่งจะชิปเซ็ตก็จะกำหนดมาแล้วว่ารองรับอุปกรณ์ไหนบ้าง จึงไม่จำเป็นเสมอไปที่จะต้องสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมารองรับอีก
โน๊ตบุ๊กจากค่ายต่างๆที่พร้อมส่งโน๊ตบุ๊กซีพียู Core i7 (ในขณะนี้)

ด้่วยความเร่งรีบเปิดตัวซีพียูหรืออย่างไรไม่ทราบทำให้โน๊ตบุ๊กหลายๆค่าย นั้นยังใช้ซีัรีย์หรือตัวรุ่น  Body เดิมที่ขายตามท้องตลาดอยู่โดยยังไม่ได้มีการออกแบบโน๊ตบุ๊กรุ่นใหม่สำหรับซี พียู Core i7 ซึ่งอีกนัยหนึ่งคือซีพียูนั้นไม่ได้มีความร้อนที่แตกต่างไปจากซีพียูรุ่น เก่าเลยจึงไม่จำเป็นต้องออกแบบเครื่องหรือระบบระบายความร้อนใหม่ โดยในหลายๆค่ายนั้นก็พร้อมจำหน่ายในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤษจิกายนนี้แล้วนะ ครับ ลองไปดูโฉมหน้าของแค่ละค่ายที่เปิดตัวออกมาแล้วก่อนเลยครับ

Lenovo (Lenovo Ideapad Y550/Core i7-720QM)
ถ้าขาดยี่ห้อนี้ไปสาวก NBS บ่นแย่เลย โดย Lenovo ยังจะใช้โมเดลของ Y550 ไปก่อนนะครับสำหรับโน๊ตบุ๊ก Core i7 จาก Lenovo โดยสเปกนั้นจะเหมือนๆกับตัว Y550/P8800 เลย โดยจะมีการเปลี่ยนซีพียูและชิปเซ็ต PM55 เข้ามา ส่วนราคาและสเปกอย่างเป็นทางการนั้น Lenovo จะประกาศมาในไม่ช้านี้ครับ ส่วนกำหนดการขายนั้นกลางเดือนตุลาคมค่อนข้างแน่นอนครับ
  • MSI (MSI GT640)
อีกหนึ่งยี่ห้อที่ขาดเสียมิได้ โดยยังใช้โมเดลของรุ่น GT6xx หรือ G Series รุ่น 15 นิ้ว โดยวัสดุและหน้าตานั้นจะเป็นสไตล์ G Series เหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว แต่จุดสนใจที่จะทำให้ MSI GT640 แตกต่างจากโน๊ตบุ๊ก Core i7 ของค่ายอื่นๆก็คือฟังค์ชั่น Turbo Mode ที่เป็นฟังค์ชั่น OC ซีพียูเพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น ต้องรอดูกันครับว่าฟังค์ชั่นนี้ของ MSI จะช่วยให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกมากน้อยเท่าใดDell (Dell Studio 15 / 17 ,Studio XPS 16



ASUS (คาดว่าจะมาในรุ่น ASUS G60J )
 ในงานเปิดตัววันนี้ ASUS ก็ได้มีเครื่องมาโชว์ (เป็นเครื่องเดียวที่มาโชว์) เป็นตัวอย่างให้ลองเล่นด้วย แต่เวลาไม่มากนักก็เลยไม่ได้ทดสอบอะไรมากเท่าไร แต่ในเครื่อง Demo นี้จะมาใน M Series ซึ่งจะเป็นรุ่นที่ไม่มีขายในไทยเพราะจอมันมีขนาดใหญ่ไปหน่อย โดยทาง Intel เองก็บอกมาประมาณว่า ASUS ไทย จะทำตลาด Coe i7 ในโมเดลของ G Series ซึ่งในข่าวเมืองนอกนั้น พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็น Asus G60J ซึ่งได้ออกแบบมาใหม่เหมือนกัน(ตามภาพเลย) สวยงามดุดันไม่เบา
 Toshiba (Toshiba Qosmio X500)





แน่นอนว่าโน๊ตบุ๊กซีรีย์เกมส์จาก Toshiba คงเป็นซีรีย์อื่นไปไม่ไ้ด้ นอกจาก Qosmio โดยเป็นอีกหนึ่งค่ายที่ออกแบบเครื่องมาให้สำหรับซีพียู Core i7 ผมแอบเห็นสเปกมาแล้วละครับว่าเท่าๆกับของ MSI แต่หน้าตาจะดูบึกบึน เท่กว่าว่างั้นเถอะครับ ส่วนข่าวคราวและเสปกนั้นจะติดตามให้ชมกันต่อไปนะครับ
ราคา
ขณะนี้ผมยังไม่กล้าฟันธงไป 100% ถึงราคาโนีตบุ๊กในแต่ละรุ่นเพราะนอกจากราคาของซีพียูแล้วยังมีองค์ประกอบ อื่นๆอีกที่จะทำให้ราคาแปรผันไปได้ทั้งสเปกเองและฟังค์ชั่นการใช้งานต่างๆ แต่พอจะประมาณราคาคร่าวๆจากข่าวที่ออกมาในช่วงนี้ ต่ราคานี้จะไม่ใช่เสมอไปนะครับ โดยจะแบ่งตามรุ่นซีพียู
  • i7-920XM – i7 ระดับสูงสุดประสิทธิภาพการใช้งานระดับสุดยอด แรงที่สุดของโน๊ตบุ๊กในวันนี้ 90,000 บาทขึ้นไป
  • i7-820QM – i7 ระดับกลางประสิทธิภาพดีมาก 70,001 บาท >> ประมาณ 85,000 บาท
  • i7-720QM – i7 ระดับเริ่มต้นประสิทธิภาพดีพอตัว 50,000 หรือน้อยกว่า >> ประมาณ 70,000 บาท
อนาคตของสถาปัตยกรรม Core i



Intel วางแผนของสถาปัตยกรรม Core i บนโน๊ตบุ๊กไว้เช่นเดียวกับบนเครื่อง PC โดยต่อจาก Core i7 ซึ่งเป็นซีรีย์ซีพียูระดับสูงสุด ก็จะเป็น Core i5 สำหรับตลาดระดับกลาง (คาดว่าจะเปิดตัวในช่วง Q4 ของปีหน้า) ซึ่งจะเป็นรุ่นที่มาพร้อมชิปเซ็ตที่มีการ์ดจอออนบอร์ดติดมาด้วยและน้องสุด ท้องคือ Core i3 สำหรับตลาดระดับล่าง ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการผลิตใหม่และยังอาจจะเป็นซีพียูตัวแรกๆที่รวมซีพี ยูและชิปเซ็ตที่มีการจอออนบอร์ดรวมกันอยู่ในชิปตัวเดียวกันด้วยครับ
สุดท้ายนี้ยิ่งเทคโนโลยียิ่ง พัฒนาไปมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้โลกเจริญไปมากขึ้น คนเราไม่มีหรอกครับที่จะหยุดคิดค้นอะไรใหม่ๆ แต่สำหรับเราทุกท่านใช้ในสิ่งที่จำเป็นและใช้อย่างพอเพียงนี่แหละดีที่สุดแล้วล่ะครับ

ที่มา :  http://notebookspec.com/web/?p=7605