ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการปล่อยหน่วยประมวลผลสำหรับโน็ตบุ๊กรุ่นใหม่ออกมา ทำให้มีกระแสการปรับเปลี่ยนจาก Intel Core 2 Duo ไปเป็นตระกูล Intel Core i อย่างที่เห็น และต่อจากนี้ไปตามแผนกลยุทธ์ที่ทาง Intel ได้วางเอาไว้ การพัฒนาไปสู่ขั้นต่อไปได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แม้ว่าการอัพเดตครั้งนี้จะเป็นการพัฒนาเล็กๆ น้อยๆ แต่บรรดาผู้บริโภทก็เริ่มให้ความสนใจเพราะว่า ราคายังเหมือนเดิม
โน็ตบุ๊กสำหรับทดสอบ
ต้องขอบคุณ ผู้จัดจำหน่ายจากประเทศเยอรมันนีอย่าง Schenker-Notebook ได้ส่งเครื่องมาให้เราทดสอบเปรียบเทียบประสิทธิภาพของ CPU รุ่นใหม่นี้ เครื่องที่ได้มาของผู้ผลิตไต้หวัน Clevo รุ่น mySN MB6.A ซึ่งถูกยกให้เป็นเครื่องโน็ตบุ๊กสำหรับกลุ่มธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมาก มีหน้าจอ HD+ ความละเอียด 1600 x 900 แบบจอด้านทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมาขึ้นในขนาดพกพาออกไปข้างนอก นอกจากตัวเครื่องยังมี ATI Mobility Radeon HD 5470 ซึ่งให้ประสิทธิภาพในระดับล่างๆ ของการทดสอบด้านสามมิติ
การทดสอบของเราจะทำโดยยังใช้การ์ดจอออนบอร์ดที่ติดมากับตัวเครื่องเป็น หลัก เครื่องที่ใช้ในการทดสอบของเราก็เป็นรุ่นทดสอบ มีไบออสคนละรุ่นกับตัวที่ขายอยู่จริงในท้องตลาด ซึ่งเห็นได้จากการที่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นกับ Intel GMA HD ขณะที่ทำการทดสอบประสิทธิภาพด้านกราฟิก
Test Configuration :
- Windows 7 Home Premium 64-bit
- Intel HM55 Chipset
- Intel Core i3 / i5 / i7
- Intel GMA HD GPU
- 15.6” HD TFT Glossy
- 4096 MB DDR3 1333MHz (up to 8 GB DDR3 RAM)
- 250 GB HDD ST9250315AS
ใครที่หวังว่าจะได้เห็นสิ่งประดิษฐ์ชั้นยอดตัวสดใหม่จากเตาละก็ เตรียมผิดหวังไปได้เลย เพราะว่าจะมีการออก CPU รุ่นใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Sandy Bridge อยู่แล้ว การ “Refresh” ครั้งนี้จึงเป็นแค่การเพิ่มความเร็วของสัญญาณนาฬิกา โดยยังใช้พลังงานเท่าเดิม ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็เพราะกระบวนการผลิตที่ถูกพัฒนาขึ้นไปนั้นเอง ส่วนความสามารถสำคัญๆ อย่าง Turbo Boost, Hyper Threading หรือ การ์ดดจอแบบฝังใน ยังคงมีไว้เหมือนของเดิม
มี CPU ทั้งหมด 4 รุ่นที่ถูกทำการทดสอบ นั้นคือ i5 460M, i5 580M, i7 640M โดยจะทำการทดสอบบนเครื่อง mySN MB6.A และเพื่อการเปรียบเทียบกับของเดิม เราได้ทำการเพิ่ม i5 540M เพื่อวัดผลด้วย
การทดสอบเชิงสังเคราะห์
Cinebench R10
โปรแกรม Cinebench R10 เป็นหนึ่งในโปรแกรมทดสอบสุดคลาสลิก จำลองการเรนเดอร์ภาพจากการประมวลผลด้วย CPU หนึ่งตัวหรือหลายๆ ตัว เป็นการจำลองสภาพที่แท้จริงของการทำงานกับโปรแกรมที่ได้รับการออกแบบมาให้ ใช้พวก Muti Core อย่างเต็มรูปแบบ สำหรับผลการทดสอบ คะแนนยิ่งสูงหมายความว่ายิ่งดี เมื่อการเรนเดอร์ภาพเสร็จสิ้น ระดับคะแนนของ CPU ยิ่งสูงเท่าไร ก็หมายถึงพลังในการประมวลผลที่มากเช่นกัน การทดสอบของเราทำทั้งแบบ 32 บิต และ 64 บิต
เปรียบเทียบผลระหว่าง 32 บิต กับ 64 บิต ระหว่าง Intel Core i5 540M และรุ่นใหม่ที่จะมาแทนที่อย่าง Intel Core i5 580M (ราคาเท่ากัน) ในเครื่องทดสอบของเรา เราเห็นความเร็วที่เพิ่มขึ้น 8% ในการเรนเดอร์แบบ Multi Core และ 12% ในแบบ Single Core แต่ผลการทดสอบในเรื่องของ OpenGL เราต้องข้ามไป เพราะว่ามีปัญหากับไบออส ทำให้เราไม่สามารถทดสอบได้
ผลการวิเคราะห์ของการทดสอบแบบ 32 บิต ค่อนข้างออกมาเหมือนกับ 64 บิต นั้นคือ แต่ละรุ่นที่ออกมาใหม่ ก็ได้รับคะแนนที่มากกว่ารุ่นต้นแบบของมัน อย่างเช่น i7 640M ถล่มคะแนนที่สูงที่สุดที่เคยทำได้ในการเรนเดอร์แบบ Single Core ไป 3% ซึ่งของเราได้คะแนน 4422 จากเครื่อง Fujitsu LifeBook NH570 ที่ใช้ Intel i7 620M นอกจากนั้น ตัว 640M ยังได้คะแนนมากกว่าค่าเฉลี่ยที่ 4221 คะแนน ถึง 8% สำหรับการเรนเดอร์แบบ Multi Core นั้น 640M ไม่ได้คะแนนสูงที่สุด เพราะเครื่อง HP Elitebook 8540W ทำคะแนนไว้ 9399 คะแนนแล้ว และโดยค่าเฉลี่ย Intel Core i7 620M ได้คะแนนอยู่ที่ระดับ 9020 คะแนน แถมตัว Intel Core i5 580M ยังได้คะแนนมากกว่าด้วยซ้ำ ทำให้ 640M ดูด้อยลงไปทันที
Super Pi
การทดสอบด้วย SuperPi เป็นการทดสอบพลังของการประมวลผลแบบ Single Core โดยจะให้ CPU ทำการคำนวนค่า Pi ออกแบบตามลำดับ เวลาที่ใช้ในการคำนวนจะเป็นตัวบอกความเร็วในการประมวลผล ยิ่งประมวลได้เร็วเท่าไร ยิ่งมีศักยภาพมากขึ้นเท่านั้น
เราจะเห็นได้ว่ามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในทุกการทดสอบ แต่เห็นได้ชัดในการทดสอบขนาด 32 m จะเห็นได้ว่า i5 580M มีพลังมากกว่า 540M ถึง 8% ส่วน i7 620M มาในคะแนนระดับค่าเฉลี่ยที่ 782 วินาที ส่วน 640M สามารถทำความเร็วได้ดีกว่าถึง 4% ที่ 753 วินาที
PCMark Vantage, Cinebench R11.5, WPrime
การทดสอบด้วยโปรแกรมอื่นๆ อย่างเช่น PCMark Vantage เราก็ลองทำการทดสอบดูแล้ว แต่ผลที่ได้ดูจะไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไร เพราะว่ามีปัญหากับไบออส ทำให้การ์ดดจอออนบอร์ดไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่วนโปรแกรม Cinebench R11.5 ไม่สามารถเปิดขึ้นมาทดสอบได้ด้วยซ้ำ ส่วน WPrime เองก็ไม่สามารถแปลผลมาได้น่าเชื่อถือพอเช่นกัน
การใช้พลังงาน
ถึงแม้ว่า CPU ตัวใหม่จะถูกออกแบบมาให้ใช้พลังงานอยู่ที่ 35 W TDP แต่เราจะทำการทดสอบเพื่อให้ได้ค่าที่ได้จากการทดสอบในหลายๆ การรูปแบบ โดยเราจะทดสอบทั้งสภาพเครื่องที่ถูกตั้งให้อยู่ในระดับ Idle Min, Idle Max, Full Load
จุดที่น่าสนใจก็คือ Intel Core i5 540M ใช้พลังงานมากกว่า 4 – 5 วัตต์ เมื่อเทียบกับน้องใหม่อย่าง 580M เวลาทำงานเบาๆ ส่วนในสภาพการทำงานหนักๆ ความแตกต่างเรื่องนี้แทบจะหมดไป ทุกตัวแสดงให้เห็นว่ากินไฟในปริมาณเท่าๆ กัน มีการสังเกตกันว่าความแตกต่างอาจจะมาจาก Stepping Level แบบใหม่ใน CPU ที่กำลังจะออก ทำให้เกิดการประหยัดพลังงานมากขึ้นเช่นในระหว่างการทำงานที่ออฟฟิศ ที่งานไม่หนักมาก แต่ก็ไม่แน่เสมอไปเพราะอาจจะเป็นเพราะปัญหาไบออสก็ได้ นอกเหนือจากเรื่องของรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ ก็พูดกันได้ว่าชิปตัวใหม่ๆ ก็ต้องการพลังงานพอๆ กับของเดิม
บทสรุป
ราคายังเท่าเดิม นี้คงจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับบรรดาลูกค้าทั้งหลาย แต่มันไม่ใช่แค่นั้น เพราะนอกจากเรื่องของราคาแล้ว เรายังได้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นด้วย บางครั้งอาจจะมากกว่า 10% ด้วย นอกจากนั้น การที่มันยังใช้พลังงานน้อยลงด้วยในการทำงานเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
อีกไม่นานเราก็คงจะได้เห็นโน็ตบุ๊กที่ใช้ CPU รุ่นใหม่ของ Intel กันแล้ว Arrandale รุ่นเก่าจะถูกโละออกไป และประสิทธิภาพที่ดีกว่าในราคาเท่าเดิมจะมาแทนที่ นั้นคือสิ่งที่พวกเราทั้งหลายอยากได้ยินใช่ไหมล่ะ เออ…โอเค อาจจะไม่… ถ้าคุณเป็นพวกของ AMD...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น