มุ่งเน้นการตลาดสำหรับรีเทล วินโดวส์ 7 ออฟฟิศ 2010 พร้อมส่งวินโดวส์ โฟน 7 กระตุ้นตลาดมือถือ
ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) ประกาศทิศทางการดำเนินธุรกิจประจำปีงบประมาณ  2554 พร้อมทั้งแสดงวิสัยทัศน์ในการนำประเทศไทยเข้าสู่ยุคคลาวด์คอมพิวติ้ง  เผยแนวทางรักษาการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทฯ เอาไว้  ด้วยการนำเสนอประโยชน์ในการใช้งานซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์แก่ผู้บริโภค  ในขณะเดียวกัน  ก็มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า  โดยการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ  เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ท้องถิ่นและการพัฒนาความสามารถ  ในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน
นาง สาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย)  จำกัด กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปีงบประมาณที่ผ่านมาว่า  “แม้ในภาวะเศรษฐกิจผันผวน ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2553 ที่ผ่านมา  แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย  โดยมีการเติบโตถึงร้อยละ 13 นอกจากนี้ ยังประสบผลสำเร็จในส่วนของ Microsoft  Partner Network โดยคู่ค้าของไมโครซอฟท์จำนวนทั้งสิ้น 4 ราย  ได้รับรางวัลคู่ค้าดีเด่นจาก Microsoft Worldwide Partner Conference 2010  ในขณะเดียวกัน การ์ทเนอร์ ยังได้จัดอันดับให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 30  ประเทศที่มีศักยภาพทางด้าน IT Outsourcing สูงสุด  โดยเป็นผลสืบเนื่องโดยตรงมาจากการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ใน  ประเทศ”
“สำหรับ ทิศทางในอนาคต เราเริ่มต้นปีงบประมาณ 2554  ด้วยข่าวดีจากการชนะเลิศการแข่งขัน Imagine Cup 2010 ประเภท Software  Design ของทีม SkeeK จากมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์  ซึ่งทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่คว้ารางวัลดังกล่าวมาได้ถึง 2  สมัย” นาวสาวปฐมา กล่าวเสริม “อย่างไรก็ตาม  คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศไทยยังคงต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจและ  สังคมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น  ไมโครซอฟท์จึงให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการค้นหาแนวทางใหม่ๆ  ในการนำเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ไปช่วยส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จในประเทศ  ผ่านความร่วมมือและความมุ่งมั่นในโครงการต่างๆ เพื่อความสำเร็จในระยะยาว”
ทิศ ทางในการดำเนินงานที่สำคัญของไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ในปีนี้ ได้แก่  การสร้างความต่อเนื่องของผลิตภัณฑ์วินโดวส์ 7 และไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ 2010  การยกระดับความพึงพอใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง  การพัฒนาผลิตภัณฑ์และธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า  และการเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง  โดยผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ที่จะออกสู่ตลาดในอนาคตอันใกล้นี้ ได้แก่  Internet Explorer 9 (บุคคลทั่วไปสามารถดาวน์โหลดเวอร์ชั่นเบต้าได้แล้ว)  และวินโดวส์โฟน 7
“จาก ความสำเร็จของวินโดวส์ 7 ในปี 2552  ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยอย่างท่วมท้น  จนทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่มีการเริ่มใช้งานวินโดวส์ 7  เร็วที่สุดในโลก   ไมโครซอฟท์มุ่งมั่นที่จะสื่อสารและใกล้ชิดกับผู้บริโภคยิ่งขึ้น  นอกเหนือไปจากการเปิดตัวช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์แบบอ  อนไลน์ที่ www.msonlinestore.com แล้ว ปี 2553  ยังเป็นปีสำคัญที่ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว ไมโครซอฟท์ เอ็กซ์พีเรียนซ์  แกลเลอรี่ อย่างเป็นทางการ 3 แห่ง ในกรุงเทพฯ ณ ห้างสรรพสินค้าไอทีมอลล์  และได้ร่วมมือกับคอมเซเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล  เปิดตัวสาขาล่าสุดที่ห้างพาราไดซ์พาร์ค เมื่อเร็วๆ นี้ และต่างจังหวัด  ที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับเชียงใหม่สยามทีวี  ทั้งยังมีแผนที่จะเปิดเพิ่มเติมอีกหลายแห่งทั่วประเทศ  ช่องทางดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์และ  ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของไมโครซอฟท์ก่อนตัดสินใจซื้อ  โดยจะช่วยเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภคให้เห็นถึงคุณค่าของซอฟต์แวร์แท้  ทั้งยังสอดคล้องกับแคมเปญ ‘100% Value of Genuine’  ของไมโครซอฟท์ที่ต้องการจะส่งเสริมความเข้าใจประโยชน์จากการใช้งานซอฟต์แวร์  วินโดวส์ 7 แบบลิขสิทธ์ของผู้บริโภค”
นอก จากนี้ การขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ธีม ‘Looking Beyond the Future’  ของไมโครซอฟท์ในปีงบประมาณนี้  ยังรวมไปถึงการมุ่งไปสู่เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง และเตรียมพร้อมคู่ค้า  ผู้ใช้งาน และ ธุรกิจต่างๆ ในการก้าวไปสู่ยุคคลาวด์ คอมพิวติ้ง  อย่างเต็มรูปแบบ ไมโครซอฟท์พร้อมในการนำเสนอเทคโนโลยี คลาวด์       คอมพิวติ้ง ใน 3 รูปแบบ ได้แก่ ‘software as a service’, ‘platform as a  service’ และ ‘infrastructure as a service’ ซึ่งรวมไปถึงบริการแบบ  private, public และ on-premises โดยสามารถเข้าถึงได้ ผ่านทาง 3 ช่องทาง  คือ พีซี เบราเซอร์ และ โทรศัพท์เคลื่อนที่  จึงทำให้ครอบคลุมทั้งผู้ใช้งานทุกกลุ่ม  ไม่ว่าจะเป็นคอนซูมเมอร์ทั่วไปและกลุ่มธุรกิจต่างๆ
“ด้วย  ประสบการณ์ในการให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งขนาดใหญ่ที่สุดและน่าเชื่อถือมาก  ที่สุดมากว่า 15 ปี  ไมโครซอฟท์พร้อมแล้วที่จะนำอุตสาหกรรมไอทีเข้าสู่ยุคคลาวด์คอมพิวติ้ง  และไมโครซอฟท์นับเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมความ  ต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ในการให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งทั้งประเภท public  และ private ทั้งยังพร้อมในการนำเสนอโซลูชั่นต่างๆ  ของไมโครซอฟท์เพื่อความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจ และการลดค่าใช้จ่าย  สำหรับภาคธุรกิจ ภาครัฐ และผู้ใช้งานทั่วประเทศ” นางสาวปฐมา จันทรักษ์  กล่าว
ภาย ในงานแถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจของไมโครซอฟท์  ยังได้รับเกียรติจากตัวแทนจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยหอการค้า  ไทย ที่ได้มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การใช้งานคลาวด์คอมพิวติ้งของไมโครซอฟท์  เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่าย และเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน
“เรา เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร  เตรียมโครงสร้างพื้นฐานและนำเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง  ของไมโครซอฟท์มาใช้ทั้ง Virtualization และ Dynamic Data Center องค์ประกอบ  สำคัญต่อการบริหารทรัพยากรคอมพิวเตอร์ของประเทศใน อนาคตสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การเสริมสร้างศักยภาพการ แข่งขัน  และการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ” ดร.ภุชงค์ อุทโภาศ  หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าว
ด้าน อาจารย์ปรเมศ ส่งแสงเติม รองอธิการบดีฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า “เมื่อต้นปีที่ผ่านมา  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในประเทศที่ได้นำเทคโนโลยี  คลาวด์คอมพิวติ้งของไมโครซอฟท์ไปใช้ เพื่อสร้างสังคมการเรียนรู้แบบดิจิตอล  ด้วยการผนวกรวมระบบ Hybrid Learning 2.0  เข้ากับหลักสูตรในการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย  เราได้เปลี่ยนโฉมหน้าของการเรียนภายในห้องเรียนไปอย่างสิ้นเชิง  โดยการเปิดโอกาสให้นักศึกษา  และอาจารย์สามารถสื่อสารกันได้ผ่านทางชุมชนออนไลน์  ผ่านทางบริการคลาวด์คอมพิวติ้งของไมโครซอฟท์ ดังนั้น  นักศึกษาจึงสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด หรือใช้เครื่องมือใดก็ตาม  วิสัยทัศน์ของไมโครซอฟท์ทางด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง  นับได้ว่าช่วยยกระดับมาตรฐานทางด้านการศึกษาของเราให้ทันสมัยยิ่งขึ้น  ซึ่งสอดคล้องเป็นอย่างดีกับไลฟ์สไตล์ในแบบดิจิตอลของนักศึกษาในศตวรรษที่  21”
และเพื่อเป็นการสนับสนุนการพัฒนาโซลูชั่นที่  เกี่ยวกับคลาวด์คอมพิวติ้งและการนำไปใช้งานจริงในภาคธุรกิจ  ไมโครซอฟท์ได้จัดทำ Microsoft ISV Solution Directory 2010 ผ่านเว็บไซต์ www.microsoft.com/thailand/isv ซึ่งรวบรวมรายชื่อบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์โซลูชั่นที่เกี่ยวกับ คลาวด์คอม
พิวติ้ง เพื่อเป็นช่องทางให้ภาคธุรกิจได้ค้นหาบริษัทพัฒนาโซลูชั่นคลาวด์คอมพิวติ้ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจ
นายสรณะ ทัศนสันติ์ Business Development Executive บริษัท ไทยเควสท์  จำกัด กล่าวว่า “ไทยเควสท์ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีไมโครซอฟท์  ซึ่งมีการใช้งานง่าย  ในการพัฒนาเครื่องมือค้นหาข้อมูลและแอพพลิเคชั่นค้นหาข่าวออนไลน์  อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนทางเทคนิค ผ่าน Microsoft ISV Solution  Directory 2010  ซึ่งเป็นเสมือนตัวกลางจับคู่ระหว่างบริษัทและนักพัฒนาซอฟต์แวร์ท้องถิ่น  และภาคธุรกิจที่กำลังมองหาโซลูชั่น จึงช่วยให้บริษัทฯ  สามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  ทั้งในแง่ความรวดเร็วและการตอบโจทย์ความต้องการการใช้งานของลูกค้า  เราตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความสนใจจากภาคธุรกิจต่างๆ  ที่ต้องการซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นในรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น ตัวอย่างเช่น  แอพพลิเคชั่น ThaiQuest e-Edition ของบริษัทฯ ซึ่งเป็น proof of concept  ประเภทคลาวด์ คอมพิวติ้ง ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาสำหรับผู้จัดพิมพ์ข่าว  โดยแอพพลิเคชั่นดังกล่าวช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าถึงข่าวต่างๆ  ซึ่งถูกโฮสต์ไว้บนคลาวด์คอม
พิวติ้งได้ผ่านทางเว็บเบราเซอร์ นอกจากนี้  ด้วยการรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ประเภททัชสกรีน  ผู้อ่านจะได้รับประสบการณ์รูปแบบใหม่จากการอ่านข้อความและรูปภาพต่างๆ  ในข่าวในรูปแบบดิจิตอล ทั้งยังสามารถใช้ฟีเจอร์การค้นหาข้อมูล ThaiQuest  Enterprise Search เพื่อค้นหาข่าวต่างๆ  ในฐานข้อมูลด้วยการใช้คีย์เวิร์ดได้อย่างง่ายดาย”
เทคโนโลยี คลาวด์คอมพิวติ้งมีส่วนอย่างยิ่งในการนำโอกาสใหม่ๆ  เข้ามาสู่ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย  และยังช่วยเสริมให้ความมุ่งมั่นของไมโครซอฟท์ในการสนับสนุนนวัตกรรมท้องถิ่น  และโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง  สามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในทุกๆ ช่วงได้ดียิ่งขึ้น  นับตั้งแต่การทดสอบการใช้งานซอฟต์แวร์ ไปจนถึงการจับคู่ทางธุรกิจ อาทิ  ศูนย์พัฒนานวัตกรรมซอฟต์แวร์ไทย หรือ Microsoft Innovation Centre  รวมถึงโครงการ Microsoft BizSpark และ โครงการ WebsiteSpark
“สำหรับ ไมโครซอฟท์  เรามองเห็นโอกาสที่สดใสในการเติบโตแบบก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของ  ประเทศ เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้น เราจะต้องพัฒนาเทคโนโลยีที่ปลอดภัย  สร้างสรรค์ และได้มาตรฐาน  ซึ่งจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่แน่ชัดภายใต้ราคาที่สมเหตุสมผล  ในฐานะที่เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและที่ปรึกษาทางด้านเทคโนโลยีที่มีความ  น่าเชื่อถือ  ไมโครซอฟท์ยังคงมุ่งมั่นที่จะผลักดันเทคโนโลยีให้เป็นเครื่องมือที่สำคัญใน  การเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย”  นาวสางปฐมา กล่าวสรุป
ที่มา :  http://notebookspec.com/web/?p=48964
วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
 



 
 
 
 
 
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น